สาวตั้งท้องถูกกีวีบ้านเกิดปฏิเสธเข้าประเทศ หันพึ่ง ‘ทาลิบัน’ ให้ทำคลอดในอัฟกานิสถาน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 30 มกราคม ระบุว่า นักข่าวสาวชาวนิวซีแลนด์ที่กำลังตั้งท้องและถูกทางการนิวซีแลนด์ปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศเนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวด เปิดเผยว่า ตนได้รับข้อเสนอจากรัฐบาลทาลิบันให้เธอไปทำคลอดที่ประเทศอัฟกานิสถาน
รายงานระบุว่า นักข่าวสาวตั้งท้องรายดังกล่าวมีชื่อว่า ชาร์ลอตต์ เบลลิส นักข่าวที่ทำงานให้กับสำนักข่าวอัลจาซีรา ในประเทศอัฟกานิสถาน โดยหลังจากเธอเดินทางกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของอัลจาซีรา ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ กลับพบว่าตัวเองตั้งท้อง
อย่างไรก็ตาม การตั้งท้องโดยยังไม่แต่งงานในประเทศกาตาร์นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งผลให้เธอเก็บเรื่องดังกล่าวเป็นความลับและตัดสินใจเตรียมเดินทางกลับประเทศนิวซีแลนด์ บ้านเกิด แต่ต้องพบว่าทางการนิวซีแลนด์ปฏิเสธที่จะให้เธอเข้าประเทศเนื่องจากมาตรการโควิด-19 ที่เข้มงวด
ล่าสุด เบลลิสเปิดเผยกับ เรดิโอนิวซีแลนด์ ในวันเดียวกันนี้ว่า ตนได้รับข้อเสนอให้เข้าประเทศจากรัฐบาล “ทาลิบัน” ในอัฟกานิสถาน ให้เธอเข้าประเทศและไปทำคลอดที่นั่นได้
เบลลิสระบุว่า ตนได้โทรหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มทาลิบัน ที่เธอเคยติดต่อไปขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิงและเด็กเกี่ยวกับปัญหาของเธอ และก็ได้รับการตอบรับให้ไปทำคลอดที่ประเทศอัฟกานิสถานเป็นอย่างดี
“ในช่วงเวลาที่ฉันต้องการ รัฐบาลนิวซีแลนด์บอกว่าคุณไม่เป็นที่ต้อนรับที่นี่ เมื่อทาลิบันยื่นข้อเสนอให้ที่พึ่งพิงกับคุณที่เป็นผู้หญิงท้อง ยังไม่ได้แต่งงาน คุณรู้เลยว่าสถานการณ์ของคุณมันแย่แค่ไหน” เบลลิสระบุ และว่า มันเป็นเรื่องตลกร้ายมากๆ ที่เธอซึ่งเคยถามถึงกลุ่มทาลิบันเกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิง แต่เวลานี้เธอกลับต้องตั้งคำถามเดียวกันกับรัฐบาลของบ้านเกิดของเธอเอง
ทั้งนี้ เบลลิสระบุว่า หลังเรื่องดังกล่าวกลายเป็นข่าวเธอได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ทางการนิวซีแลนด์ ซึ่งแจ้งว่าใบสมัครของเธอที่ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านั้นกำลังถูกทบทวนใหม่
ทั้งนี้ประเทศนิวซีแลนด์กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จนต้องยกเลิกแผนการผ่อนคลายในการรับชาวนิวซีแลนด์ที่จะเดินทางกลับประเทศ และปิดชายแดนลงสำหรับทุกคนที่ไม่มีการจองเพื่อเข้าสู่การกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ยกเว้นแต่จะเป็นกรณีฉุกเฉิน