แม่เหยื่อรถแข่งพุ่งชนคนดูโอด ผู้จัดชดเชย 1 แสน เหมือนคนตายไม่มีค่า ไม่เยียวยาคนเจ็บแม้แต่บาทเดียว

แม่น้องลูกปลา วัย 16 เหยื่อรถแข่งพุ่งชนคนดูร้องสื่อ หลังผู้จัดชดเชยเงินเพียง 1 แสน ยืนกรานจ่ายให้สูงสุดได้ 3 แสน หลังแม่เรียกขอเยียวยา 1.3 ล้านบาท เสมือนชีวิตลูกไร้ค่าเพราะความประมาท พร้อมสั่งห้ามให้ข่าวกับนักข่าว ส่วนผู้บาดเจ็บยังไม่ได้รับเยียวยาแม้แต่บาทเดียว

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.ลัดดาวัลย์ หีดเภา หรือแม่จุ้ม อายุ 46 ปี ใน ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นมารดาของ นายมณฑล หรือ ลูกปลา อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนน้ำผุด (มัธยม) หลังเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 ก.ค. จากเหตุการณ์รถแข่ง 150 ซีซี เสียหลักพุ่งชนน้องลูกปลา ซึ่งเป็นผู้เข้าชมการแข่งขันเสียชีวิตบริเวณขอบสนามชั่วคราวในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบการกุศล “กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่ง” ภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง

น.ส.ลัดดาวัลย์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ผู้จัดงานมอบเงินสดให้ในงานศพ 1 แสนบาท หลังจากนั้นผู้จัด 2 คนได้เข้ามาขอไกล่เกลี่ยครั้งที่ 1 แม่เรียกเงินเยียวยา 1 ล้าน 3 แสนบาท แต่ผู้จัดยืนกรานจ่ายให้ได้มากที่สุดคือ 3 แสนบาท หลังจากได้ยินคำพูดอย่างนั้นแม่รับรู้ได้ว่าเขาไม่เต็มใจจะชดเชยให้ และการมาไกล่เกลี่ยก็เหมือนไม่เต็มใจมาพบ มาเพียงแค่เป็นพิธีเนื่องจากพนักงานสอบสวนเรียกมา ไม่รู้จะยื้อ หรือประวิงเวลาในเรื่องใด

น.ส.ลัดดาวัลย์กล่าวว่า วันนี้อยากเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ ออกมาพูดคุย ไม่ใช้เอาผู้จัด 2 คนนี้มาคุย ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร อาจจะเป็นนอมินีให้กับใครบางคน เชื่อว่าคนที่จัดงานจริงๆ ไม่ใช่คนที่ปรากฏชื่ออยู่แน่ และคนขับซึ่งเป็นคนประมาท กับเทศบาลนครตรังที่เป็นผู้อนุญาตให้ใช้สถานที่ รวมทั้งตำรวจที่เป็นผู้มีอำนาจในการสั่งให้ปิดถนนหลวงก็ยังไม่ออกมารับผิดชอบใดๆ

“แม่เป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่รู้กฎหมาย ไม่มีเงินจะไปต่อสู้อะไรกับใคร จึงขอพึ่งพาสื่อมวลชน และอยากให้ผู้ที่รู้กฎหมายช่วยเหลือ เพราะหวั่นว่าคดีนี้จะเป็นคดีมวยล้มต้มคนดู เขาอาจคิดว่าแม่เป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง จะทำยังไง จะเอายังไงก็ได้ ทีมผู้จัดก็เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนใหญ่โต และหนึ่งในผู้จัดเคยพูดว่าห้ามให้ข่าว หรือร้องเรียนกับสื่อมวลชน” แม่จุ้มกล่าว

Advertisement
น.ส.ลัดดาวัลย์ หีดเภา แม่น้องลูกปลา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่จุ้มกล่าวอีกว่า หลังจากน้องเสียชีวิตไป แม่ยังทำใจไม่ได้ พ่อและแม่ยังไม่ได้กรีดยาง หรือทำงานหลังจากเกิดเหตุ จิตใจยังไม่พร้อม น้องก็ไม่ได้มาเข้าฝันอะไร คิดว่าน้องคงไปสบายแล้ว เพราะน้องเป็นเด็กบริสุทธิ์ กตัญญู คนในหมู่บ้านรู้ดี หลังจากนี้แม่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด หากน้องรับรู้ได้ก็อยากให้น้องเป็นกำลังใจให้แม่ในการต่อสู้เรียกร้องให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้น้องต้องเสียชีวิตลงไปโดยไม่มีค่า

ด้าน นางมนทิรา เลี้ยงสกุล อายุ 39 ปี (เสื้อเขียวสวมแมสก์) แม่ของ นายกฤษฎา เลี้ยงสกุล หรือ กฤษ อายุ 16 ปี เพื่อนของนายมณฑล ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะที่ลูกชายนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทางทีมผู้จัดได้นำกระเช้าไปเยี่ยมและขอโทษ พร้อมแจ้งและรับปากว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ก็ไม่จ่าย ปล่อยให้รอเก้อ แม่ต้องเป็นคนจ่ายเอง จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาอะไรแม้แต่บาทเดียว ตนได้ยื่นเสนอไปให้ทางผู้จัดเยียวยา 3 แสนบาท แต่กลับได้รับคำตอบว่าจ่ายให้ได้แค่ 3 หมื่นบาท จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆ เข้ามา หลังจากนี้จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะลูกชายขาหักยังเดินไม่ได้ และมีอาการเกี่ยวกับสมอง เนื่องจากกะโหลกศีรษะร้าว ไปโรงเรียนไม่ได้

Advertisement

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวลืออย่างกว้างขวางว่า ผู้จัดงานตัวจริงเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครตรังรายหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่ก่อเหตุปัดกล้อง พร้อมข่มขู่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง รายหนึ่งรายงานเหตุดังกล่าว โดยมีการให้นอมินีคนอื่นมาเป็นผู้จัดแทน เนื่องจาก ส.ท.มีตำแหน่งทางการเมือง ทำให้ติดระเบียบข้อบังคับไม่สามารถขอจัดเองได้

มนทิรา เลี้ยงสกุล แม่ผู้บาดเจ็บ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image