จับแล้วลูกเขยยิงแม่ยายชิงลูก เหตุกลัวผัวใหม่เมียรังแกลูก

จากกรณีนายนิคม นามพิทักษ์ อายุ 25 ปี ชาว ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งก่อเหตุใช้ปืนยิงนางฐิติภา ยุวมิตร อายุ 54 ปี แม่ยาย เพื่อชิงตัว ด.ญ.เอ บุตรสาววัย 5 เดือนไปเลี้ยงดู เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่บ้านหนองไผ่ ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี

ความคืบหน้าเมื่อเวลาล่าสุด 20.30 น. ตำรวจ เมืองอุบลราชธานี ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเกษตรพัฒนา ตำบลแสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และเข้าจับตัวนายนิคม นามพิทักษ์ อายุ 25 ปี ซึ่งใช้ปืนพกสั้นยิงนางฐิติ แม่ยาย เพื่อชิงตัว ด.ญ.เอ บุตรสาววัย 5 เดือนไปเลี้ยงดู

แต่หลังก่อเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ได้ยกกำลังมาปิดล้อม ทำให้นายนิคมต้องทิ้งบุตรสาวไว้กลางทุ่งนาก่อนหลบหนีการจับกุมไปนานรวม 1 เดือน สุดท้ายชุดสืบสวนสืบทราบว่านายนิคม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ได้หลบมาอาศัยอยู่ในรีสอร์ทดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและจับกุมตัวไว้ได้ตามหมายจับศาล ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

Advertisement

โดยนายนิคม รับสารภาพเพียงข้อหาเดียวคือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาที่เหลือให้การปฏิเสธ พร้อมเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ได้นำเงินจำนวน 2,000 บาท ไปมอบให้นางหน่อย เมียใช้เป็นค่านมเลี้ยงดู ด.ญ.เอ บุตรสาวที่บ้านของนางฐิติภา แม่ยาย แต่เมื่อไปถึงพบกับแฟนใหม่ของนางหน่อย อยู่ในบ้าน ทำให้โมโหได้ชักปืนแก๊ปพกสั้นออกมาขู่แฟนใหม่ของเมียและคนในบ้าน

โดยขอเอา ด.ญ.เอ ไปเลี้ยงดูเอง เพราะไม่เชื่อใจแม่ยายจะดูแลลูกของตนเองได้ดี เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัวของนางหน่อยภรรยา พยายามกีดกันให้นายนิคมเลิกกับลูกสาว และไปอยู่กินกับแฟนใหม่ที่มีเงินมีทองมากกว่าตน โดยก่อนหน้านี้ มีการวางแผนเอายาเสพติดให้ตนเสพและแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาจับตัวไปเข้าค่ายรับการบำบัดอยู่นานร่วม 4 เดือน ระหว่างนั้นก็เปิดโอกาสให้แฟนใหม่มาขอและอยู่กินกับภรรยาของตน

ซึ่งตนพอทราบเรื่องระแคะระคายจากคำบอกเล่าของนางหน่อยภรรยาอยู่บ้าง กระทั่งวันเกิดเหตุนำเงินมาให้เป็นค่านมลูกและพบความจริง และยังถูกกีดกันไม่ให้ใกล้ชิดลูกสาว ทำให้โมโหชักปืนแก๊ปออกมาข่มขู่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ยิงแม่ยายจนได้รับบาดเจ็บ แต่เกิดจากปืนลั่น

Advertisement

หลังเกิดเหตุได้หลบหนีออกจาพื้นที่ตำบลขามใหญ่ กลับมาอาศัยอยู่ตำบลบุ่งมะแลง บ้านเกิดที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูล โดยอาศัยหลับนอนอยู่ตามเกาะแก่งและในเรือกลางแม่น้ำมูล พร้อมจับปลาให้ญาติไปขายหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ได้หลบหนีไปไหน

กระทั่งช่วงหลังเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากดดันอย่างหนัก ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายออกจากหมู่บ้าน มาอยู่เปิดห้องพักที่บ้านเกษตรพัฒนา ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ กระทั่งถูกชุดสืบสวนติดตามมาจับกุมได้ดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image