วิศวะรับน้องโหด เบิร์นขนรักแร้ อวัยวะเพศ – พ่อแม่ ขอย้ายลูก ถูกรุ่นพี่เกือบ 20 รุมทำร้าย สองพ่อลูก ในมหาวิทยาลัยดัง แม่รับไม่ได้กราบยังกระทืบลูกต่อ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ซึ่งมีสภาพถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ภรรยา พ่อและแม่ของนายซี (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ศูนย์นนทบุรี เขตใต้ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ปภัทสนี สุดจิตจูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหด ทำร้ายลูกชาย และหลังจากพาลูกชายไปทำเรื่องย้ายเขตไปเรียนฝั่งเหนือ จนถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลกรมชลประทาน เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.30 น. นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี พ่อและแม่ และนายซี (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.นนทบุรี เพื่อขอย้ายลูกจากเขตใต้ไปเรียนที่เขตเหนือ เนื่องจากครอบครัวให้ลูกลาออกจากระบบรับน้องโหด เพราะลูกชายถูกให้ทำกิจกรรมโหด เช่น ใช้ไฟลนอวัยวะเพศ ไฟเผาขนรักแร้ ดึงขนคิ้ว และทำร้ายร่างกายเกือบทุกวัน
ซึ่งทางมหาวิทยาลัยอนุมัติให้ย้ายเขตได้ เมื่อทำเรื่องย้ายเสร็จระหว่างที่เดินลงอาคารมาถึงโรงอาหาร ได้พบกลุ่มรุ่นพี่ที่อยู่ในระบบรับน้องโหดเกือบ 20 คน เข้ารุมทำร้ายกระทืบที่ศีรษะลูกชาย ส่วนนายเอ ผู้เป็นพ่อถูกทำร้ายด้วยได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
นายเอ พ่อของนักศึกษาปี 1 กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเช้าที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีคนกลุ่มหนึ่งรับน้องลูกชายตนเพื่อเข้าระบบของโรงเรียน ลูกของตนก็ไม่เคยเล่าให้ตนฟัง แต่เขาไปเล่าให้แม่เขาฟัง แต่วันนี้ลูกมาเล่าให้ตนฟัง เลยขึ้นไปคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เพื่อว่าจะเรียกเด็กคนนี้มาไกล่เกลี่ย ว่าลูกตนอยากจะเรียนหนังสือไม่ใช่มาเป็นนักเลง แต่เขากำลังจะมาไกล่เกลี่ยกับตน
แต่พอตนคุยจบกับอาจารย์ เขาดักอยู่ตรงห้องอาหารประมาณ 20 คน แล้วเดินเข้ามารุมทำร้ายเลย ทั้งพ่อทั้งลูก โดยเขาทำตนและลูก 2 คน ที่ตนเข้าไปมหาวิทยาลัยวันนี้เพื่อจะไปแจ้งย้ายโรงเรียน เพราะลูกตนถูกกดดันและเครียด ถึงขนาดยึดบัตรประชาชนลูกตน แล้วไปถ่ายภาพบ้านตน ถ่ายภาพรถตน เพื่อว่าจะดักลูกตนอย่างเดียว
นายเอกล่าวว่า สาเหตุก็เกิดมาจากเรื่องการรับน้อง คือการรับน้องของเขาไม่ธรรมดา คือเขาเผารักแร้และเผาอวัยวะเพศ แต่ว่าคนอื่นยอมหมด แต่ลูกชายของตนไม่ยอม มันก็เลยเกิดความไม่พอใจลูกตนว่าลูกตนแข็งกระด้าง โดยลูกชายของตนเพิ่งมาเข้าเรียนที่นี่ปีแรกปี 1 ส่วนตนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขน นิ้ว ขา ส่วนลูกชายสมองบวม ซึ่งสมองตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากไหมเพราะเขายังไม่รู้สึกตัว แล้วปากแตกเป็นแผลเยอะอยู่
ด้าน น.ส.บี แม่ของนักศึกษาปี 1 ที่ถูกทำร้าย กล่าวว่า เมื่อเช้าตนไปขอคุยกับครูเพื่อจะแจ้งย้ายจากวิทยาเขตฝั่งใต้ ย้ายไปอยู่วิทยาเขตฝั่งเหนือ เพราะว่าน้องกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะว่าโดนรุ่นพี่ขู่ จึงคุยตกลงกับอาจารย์จะมาขอร้องรุ่นพี่ว่าปล่อยน้องไปเถอะ ต่างคนต่างมาเรียนหนังสือ
แต่พอลงมาจากตึกที่คุยกับอาจารย์เสร็จ เขาเดินมาพูดว่ามึงจะต่อยกับกูตัวต่อตัวหรือ ตนก็เอามือกั้นไม่ให้เขาต่อยลูก สักพักหนึ่งพอตนกั้นคนนี้ คนข้างหลังมารุมลูกตนทุกคนเลย รุมกระทืบกันประมาณ 10 กว่าคน แล้วพ่อเขาก็โดนด้วย ได้รับบาดเจ็บ ตอนรับน้องลูกมาบอกตนว่าเขามีการแบบว่าให้ไปเข้าป่า มีการวิดพื้นเป็นร้อยๆ รอบ หลักสูตรเหมือนทหารเลยให้ลูกชายตนทำ
แล้วก็เบิร์นขนรักแร้ และเบิร์นอวัยวะเพศของน้องด้วยสีสเปรย์อะไรสักอย่างหนึ่ง ลูกชายตนเขาจึงบอกว่าจะออกจากระบบ เขาจึงบอกว่ามึงขายสถาบันหรือ เขาเหมือนเอาลูกตนไปซ้อม ทุกคนซ้อมต่อยลูกและดึงคิ้วลูกตน แล้วบอกว่าให้แม่มึงมารับศพที่หน้าโรงเรียนได้เลย ตนเพิ่งรู้ว่าเกิดเหตุตรงนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นไม่รู้เพราะลูกตนไม่เคยบอกเรื่องการรับน้องรุนแรงจากรุ่นพี่มาก่อน แต่พอเขาเริ่มไม่ไหวเขาเริ่มมาบอกปรึกษาตน
น.ส.บีกล่าวอีกว่า ตนจึงบอกลูกว่าออกจากระบบได้ไหมแม่ขอร้อง เขาก็บอกว่าเขาจะออกจากระบบเพราะเขาไม่ไหวแล้ว เขาโดนเขาทนไม่ไหว เขาอยากจะแค่ไปเรียนหนังสือ ไม่ต้องรับระบบ แต่รุ่นพี่ขู่เอาไว้ว่าถ้ามึงออกจากระบบ กูจะทำทุกวิถีทางให้มึงออกจากโรงเรียน มึงกินข้าวกูก็จะเอาข้าวปาใส่หน้ามึง จะบีบมึงทุกทาง โดนยึดบัตรประชาชน ตามไปถ่ายภาพที่บ้านของลูกชายตน แล้วตามไปถ่ายภาพบ้านย่า คือทุกที่ที่ลูกชายตนไปเขาตามไปหมดเลย บ้านน้องอยู่ที่ไหน ถ่ายทะเบียนรถ ถ่ายแม้กระทั่งของที่อยู่ในเบาะรถ ทะเบียนต่างๆ เขาถ่ายไปหมดเลย โดยเขาถ่ายที่โรงเรียน ที่ลูกชายตนโดนซ้อมเขาก็ยึดโทรศัพท์เหมือนไม่ให้ลูกชายตนโทรบอกตน
น.ส.บีกล่าวว่า ตนกันและกอดลูก และบอกว่าแม่กราบขอร้องพอเถอะ ขอร้องยกมือไหว้พวกเขาทุกคน หยุดๆ สักที แล้วเขาก็ผลักตน ตนก็พยายามจะเข้าไปกอดลูก เขาก็กระทืบลูกตนเฉพาะแค่บริเวณตรงหัว กระทืบเน้นๆ ทุกเท้าอยู่ที่หัวลูกตนหมดเลย ตนร้องไห้ได้แต่บอกว่าหยุด หยุดเถอะ ตนกราบให้เขาหยุดเพราะรับไม่ได้ ตนกราบขอร้องเขาขอให้เขาหยุดสักทีเถอะ แต่เขาก็ยังกระทืบไม่หยุด ตนก็กอดลูกแล้วก็กราบเขาอีก สักพักก็จะมีอาจารย์เริ่มวิ่งเข้ามา แล้วบอกให้หยุดๆ แล้วปิดประตูรั้วเพื่อไม่ให้น้องหนีออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้น้องเขาหนีไปไหนกันหมด เหลืออยู่ประมาณ 2 คนที่ตำรวจได้สอบถามเพราะเขาไม่ได้หนี
โดยทั้งพ่อและแม่แจ้งความ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับกลุ่มที่ทำร้ายลูกชายให้ถึงที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายนักศึกษาปี 1 รุ่นน้องได้รับบาดเจ็บ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป