ที่มา | วิเคราะห์ มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
โรดแมป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ผ่านไปอีกขั้น
ตามโรดแมปเดิม พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ แล้วนำประเทศสู่การเลือกตั้ง
คืนความสุขคนไทย!
แต่ปรากฏว่า โรดแมปเดิมเกิดสะดุด เพราะสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. โหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานตกไป
โรดแมปจึงต้องขยาย
คราวนี้นายมีชัยเป็นประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ และได้ดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญจนเสร็จสิ้น ส่งมอบให้คณะรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมตามกำหนด
ต่อไปทุกอย่างจะไปโฟกัสกันที่การประชามติ
รับ-ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
แม้ก่อนหน้าร่างรัฐธรรมนูญจะส่งมอบให้กับคณะรัฐมนตรี สถานการณ์การร่างรัฐธรรมนูญคล้ายกับจะปั่นป่วน
เมื่อคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อเสนอปรับแก้ไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
แต่นายมีชัยออกอาการ!
กระทั่งมีกระแสความขัดแย้งในแม่น้ำ 5 สายขึ้นมา
ยิ่งเมื่อ กรธ.นำข้อเสนอของ คสช.ไปดัดแปลง ดึงดันที่จะแทรกสัดส่วนที่มา ส.ว. จากการสรรหาทั้งหมดเป็นการแซมการเลือก ส.ว.ตามแบบที่ กรธ.นำเสนอด้วย
จาก ส.ว. 250 คน ให้สรรหา 200 คน อีก 50 คนให้เลือกตามที่ กรธ.กำหนด
ส่วน 6 ตำแหน่งที่จะเปิดไว้ให้ปลัดกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพนั้นไม่ระบุตายตัว
ยิ่งกระพือข่าวคราวความขัดแย้งให้กระจายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพียงชั่วอึดใจกระแสความขัดแย้งระหว่าง กรธ. กับ คสช. ก็คลี่คลายลง เพราะหลังจาก กรธ. เปลี่ยนแปลงข้อเสนอเพียงแว้บเดียว
กรธ.ก็กลับมารับข้อเสนอ คสช. เสียแล้ว
ทั้งการแก้ไขที่มา ส.ว. ทั้งการเปิดโควต้า 6 เก้าอี้ให้ปลัดกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ทั้งกำหนดวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี
เป็นการรับข้อเสนอภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประสานเสียง
ตัดแก้ไขตามที่ คสช.ร้องขอ
เวลา 13.39 น. วันที่ 29 มีนาคม นายมีชัยจึงนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ออกเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบ
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยมีทั้งสิ้น 279 มาตรา
ตรวจสอบผลการขานรับ-ปฏิเสธ พบว่าพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยทันที
เช่นเดียวกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่ให้สัมภาษณ์ว่า นปช.รับไม่ได้
แต่นอกจาก 1 พรรค และ 1 มวลชนแล้ว ที่เหลือกลับมีท่าที…รับได้
นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บอกว่าพอใจกับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้ กสม.ทำงานได้คล่องตัวขึ้น
โดยเฉพาะการกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐ และยกฐานะกฎหมาย กสม.
นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ระบุว่าพอใจร่างรัฐธรรมนูญในระดับหนึ่ง
ดังนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อคัดค้าน เพราะ กรธ.ได้บรรจุให้มีแนวทางในการพัฒนาระบบราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาชัดเจน หากแต่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่าประชามติผ่าน
เพราะประชาชนอยากเลือกตั้ง
ในห้วงเวลานี้ก่อนจะถึงวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เสนอให้ทำประชามติ กลเกมการเมืองต่างๆ อาจมีการพลิกไปพลิกมา
นับตั้งแต่ท่าทีของขั้วอำนาจ “คนกันเอง” ที่ต้องตรวจสอบการใช้และการคานอำนาจอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยและ นปช. ที่ตั้งธงเอาไว้แล้วว่า จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
รวมไปถึงประสิทธิภาพของ กกต. ในฐานะเจ้าภาพจัดประชามติว่า สามารถมีกลยุทธ์ใดจะทำให้คนออกมาใช้สิทธิกันมากได้
ทั้งนี้ เพราะมิใช่มีเพียงแค่ “เสียงข้างมาก” แล้วจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติไปเท่านั้น
“เสียงข้างมาก” ที่จะผ่านประชามตินั้น ต้องเป็นเสียงข้างมากที่โหวตแล้วสง่างาม
“เสียงข้างมาก” ที่จะสง่างามได้ ต้องเป็นเสียงข้างมากในจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิโหวตประชามติจำนวนมาก
ดังเช่นการคาดการณ์ของ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ที่เห็นว่าน่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิโหวตประชามติ 85 เปอร์เซ็นต์
หากผลการโหวต “เสียงข้างมาก” จาก 85 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ …
เช่นนี้เสียงข้างมากย่อมมีศักดิ์และสิทธิ
แต่ถ้าผลการโหวต “เสียงข้างมาก” จากผู้มาใช้สิทธิที่น้อยมาก
เช่นนี้แม้จะเป็นเสียงข้างมากก็ย่อมสร้างความเคลือบแคลงในภายหลัง
ดังนั้น กกต.จึงต้องรับภาระนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นคิดเช่นไร ผลการลงประชามติจึงต้องรอวันที่ 7 สิงหาคม
เพียงแต่ผลจากการทำประชามติครั้งนี้ ย่อมมีผลกระทบต่อ คสช. มากกว่าการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์
เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยไม่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับภาระแก้ไขสถานการณ์
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปอาจต้องใช้วิธีประกาศออกมาด้วยอำนาจของ คสช. ซึ่งคงได้รับการยอมรับจากต่างชาติน้อยกว่าการทำประชามติ
ขณะที่สภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ที่ก้นของตัวยู ขณะที่สถานการณ์อื่นๆ แลดูเครียดขึงขึ้น
ทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ คือการนำประเทศไทยสู่การเลือกตั้งให้ได้
การยืนยันโรดแมป พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 จึงสำคัญ
การทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยผ่านความเห็นชอบจากการโหวตประชามติจึงสำคัญมาก
วันนี้หลายคำสั่งของ คสช. จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการนี้
นั่นคือ ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ…ต้องผ่าน