“ทรงเป็นพระราชโอรสหนึ่งในสี่พระองค์โตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ไปเรียนที่ต่างประเทศชุดแรกก่อนกลับสู่ประเทศไทย เพื่อทำงานตอบแทนแผ่นดิน ในตำแหน่งฉากหลัง ผู้ซึ่งเป็นที่ไว้วางใจของพระราชบิดา ตลอดพระชนม์ชีพ 44 ปี”
อัตชีวประวัติของอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของงานด้านราชการไทย “พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี” พระนามที่ใครหลายคนอาจเคยรู้จัก แต่อาจไม่เคยทราบถึงการดำเนินชีวิต และการทรงงานเพื่อแผ่นดินอย่างลึกซึ้ง
ในโอกาสครบรอบ 100 ปี วันสิ้นพระชนม์ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562 นี้ จึงควรค่าอย่างยิ่งในการระลึกถึงบุคคลสำคัญที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยนานัปการ
จุดเริ่มต้นของคนสำคัญ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ เป็นพระราชบุตรลำดับที่ 15 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อันประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแช่ม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2418 เป็น 1 ใน 4 พระราชโอรสองค์โตกลุ่มแรก ที่พระราชบิดาส่งไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศเมื่อปี 2428 พร้อมกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
ก้าวสู่ตำแหน่งฉากหลังของพระราชบิดา
หลังจากที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ ได้ศึกษาด้านอักษรศาสตร์ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เป็นเวลาเกือบสิบปี จึงเสด็จกลับประเทศไทยเพื่อช่วยเหลืองานราชการของพระราชบิดา เนื่องจากในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้านั้น ปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ผู้รับตำแหน่งทางราชการจึงเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของกษัตริย์
พระองค์เริ่มทรงงานในตำแหน่งสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงหน้าที่ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่าง “ราชเลขาธิการ” แต่ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงมากนัก เพราะอาจกล่าวได้ว่าเป็นหน้าที่ที่อยู่เพียงฉากหลังเท่านั้น ซึ่ง คุณสรวิช ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิพิธภัณฑ์สิงห์ จำกัด ผู้สืบเชื้อสายราชสกุลประวิตรโดยตรง ในฐานะเหลนของพระองค์ จึงได้ทำการรวบรวมหลักฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาตลอดหลายปี เพื่อเปิดเผยเรื่องราวในอดีตอันน่าสนใจ กล่าวว่า จากเอกสารและข้อมูลที่ได้รับการส่งต่อมาจากคุณแม่และเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ตนเองได้เก็บรวบรวมมาตลอดหลายปี พบว่าการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ เสมือนเป็นกุญแจสำคัญในการติดต่อกับประเทศแถบยุโรป เนื่องด้วยงานหลักของพระองค์คืองานราชเลขานุการ ทำให้ต้องข้องเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ อีกทั้งยังทรงงานอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ดูแลเรื่องการต้อนรับราชอาคันตุกะจากต่างประเทศ ประสานงานเรื่องส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นคณะเลขานุการของคณะรีเจนท์ครั้งแรก เมื่อครั้งพระราชบิดาเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 ตลอดจนหน้าที่อื่น ๆ ในฐานะเลขานุการ
นอกจากนี้พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ ยังได้รับใช้ประเทศชาติอีกหลายตำแหน่งในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้วย โดยทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างของเจ้านายที่ดี และถูกต้องตามพระราชประเพณีอย่างสมพระเกียรติ ตลอดพระชนม์ชีพ 44 ปี
คำสอนของพ่อ ถึง “ลูกกษัตริย์”
นอกจากเรื่องบทบาทการทรงงานแล้ว พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ พระเชษฐาและพระอนุชาที่ได้ไปเรียนต่างประเทศพร้อมกัน ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมาก คุณสรวิชเปิดเผยเรื่องนี้ว่า จากการที่ถูกส่งไปเรียนเป็นกลุ่มแรก ทำให้พระราชบิดาทรงห่วงใยเป็นพิเศษ จึงได้เขียนเอกสารด้วยพระองค์เองเอง ส่งตรงถึงพระโอรสทั้ง 4 ถึงการเป็น “ลูกกษัตริย์” ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อไปต่างบ้านต่างเมือง อาทิ การใช้จ่าย การวางตัว ตลอดจนการนำความรู้ความสามารถกลับมาตอบแทนคุณแผ่นดินและประชาชน
จากไทยไปนาน กลับบ้านมาไม่เหมือนเดิม
เมื่อเสด็จกลับประเทศไทยหลังจากที่จากบ้านไปนาน มีเรื่องขำขันในการปรับตัวอยู่พักใหญ่ เพราะสมัยนั้นประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า และมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ทำให้ศัพท์ในการพูดคุยไม่เหมือนเดิม ครั้นจะใช้คำพูดเช่นเดิมก็ดูเหมือนจะแปลกแยกจากคนอื่นอยู่มาก พูดคุยกันลำบาก จึงทำให้พระองค์ต้องมีการปรับตัวเรื่องการใช้คำพูดในการสื่อสารอยู่พอสมควร เพื่อให้ทันยุคทันสมัย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอัตชีวประวัติอันน่าสนใจของบุคคลสำคัญของประเทศไทย ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน และไม่ควรเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจนี้ทั้งยังมีให้ติดตามและเรียนรู้เพิ่มเติมอีกมากมาย ผ่านหนังสือ “รฦกแห่งที่รัก จากเหลนแด่ทวด” ของพระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดมฯ จากสรวิช ภิรมย์ภักดี ที่ได้ลงมือเก็บรวบรวมหลักฐานเก่าแก่ด้วยตนเองมาตลอดหลายปี เพื่อทำให้คนไทยรู้จัก และไม่ลืมบุคคลสำคัญท่านนี้
ร่วมย้อนวันวานถึงประเทศไทยในสมัยอดีตกาล พบกับความรักของพ่อในบทบาทของกษัตริย์ที่ต้องดูแลพสกนิกรและลูก ๆไปพร้อมกัน พร้อมระลึกถึงสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ที่ใครหลายคนอจไม่เคยทราบมาก่อน ผ่านเรื่องราวที่เรียงร้อย ประกอบรูปภาพสีสันสวยงามและเอกสารหายาก รวมกว่า 300 ภาพ ได้แล้ววันนี้ที่ Open House Bookshop by Hardcover ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, ศูนย์หนังสือจุฬาฯ, ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ(Kinokuniya), เอเซียบุ๊คส (Asia Books) หรือสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.singhaonlineshop.com ในราคาเพียง 679 บาท