ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ “งานมหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว ทิวลิปบาน ที่ระยอง” งานจัดแสดงและจัดจำหน่ายพันธุ์ไม้เมืองหนาวสุดยิ่งใหญ่ จากฝีมือโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงผลผลิตจากเทคโนโลยีการเกษตร แบ่งปันความรู้แก่ผู้ที่สนใจ และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ แต่ปีนี้จำเป็นต้องงดไปก่อนตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาด ทำให้พี่น้องชาวระยองจำนวนไม่น้อยขาดรายได้ เกิดเป็นผลกระทบต่อการดำรงชีพ
อย่างไรก็ตาม แม้ในปีนี้จะไม่ได้มีการจัดงานดังกล่าว แต่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือชาวระยองอย่างเต็มที่เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ด้วยการร่วมมือกับเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง นำดอกทิวลิปที่ปลูกขึ้นสำหรับงานมหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว ทิวลิปบาน ที่ระยอง ครั้งที่ 9 ซึ่งเดิมตั้งใจว่าจัดในวันที่ 4 – 15 เมษายนที่ผ่านมา ไปจัดจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจ เพื่อนำรายได้มาจัดทำถุงยังชีพชุดธารน้ำใจจำนวน 1,000 ชุด มอบให้แก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจแพร่เชื้อ ที่ต้องกักตนเองอยู่ภายในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน ในพื้นที่จังหวัดระยอง
นอกจากนี้ยังได้มีการนำดอกทิวลิปไปมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการต่อสู้และช่วยเหลือประชาชนด้วย อาทิ โรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลนครปฐม โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10
ซึ่ง “ดอกทิวลิป” จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยองนั้น เป็นผลงานจากความภาคภูมิใจของคนไทย ที่พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ตามโครงการในพระราชดำริฯ ว่าด้วยการใช้ความเย็นและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในการวิจัยไม้เมืองหนาว ที่ทดลองนำพลังงานความเย็นที่ได้จากกระบวนการแปรสภาพก๊าซ LNG (Liquefied Natural Gas) จากของเหลวไปเป็นก๊าซ ให้สามารถนำกลับมาใช้สร้างประโยชน์ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศได้ ซึ่งได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากหลายหน่วยงานเป็นอย่างดี จนประสบผลสำเร็จสามารถสร้างโรงเรือนประหยัดพลังงานต้นแบบขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2555 โดยได้ทดลองใช้พลังงานความเย็นจากที่ได้จากกระบวนการแปรสภาพก๊าซ LNG มาสร้างความเย็นให้แก่โรงเรือนเพาะปลูกไม้เมืองหนาว อาทิ ลิลลี่และทิวลิป รวมทั้งนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติ มาใช้เสริมการเจริญเติบโตของพืชเหล่านั้น
ต่อมาในปี 2556 ปตท. ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถกักเก็บพลังงานความเย็นได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อนำไปใช้ทำความเย็นกับระบบปรับอากาศ และระบบอื่นๆ ในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งผลิต อีกทั้งยังได้เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการจัดการด้านเกษตรกรรมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันโรงเรือนฯ สามารถปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาวได้มากมาย อาทิ ลิลลี่ ทิวลิป สตรอว์เบอรี รวมถึงมีการต่อยอดงานวิจัยศึกษาการเพาะหัวพันธุ์ไม้เมืองหนาวให้ได้ต้นที่มีความแข็งแรง ออกดอกสวยงามได้ทุกฤดูกาล เพื่อให้สามารถสร้างผลผลิตและขยายพันธุ์ได้เอง ช่วยลดการนำเข้าพันธุ์ไม้จากต่างประเทศ หรืออาจพัฒนาให้เป็นสินค้าส่งที่สำคัญของไทยต่อไปในอนาคต เป็นการส่งเสริมให้เกิดอาชีพและสร้างรายได้ให้เกษตรกรและประชาชนที่สนใจในพื้นที่ เนื่องจากพันธุ์ไม้เมืองหนาวมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง
แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้คนไทยพบเจอกับภาวะวิกฤต แต่เชื่อว่าทุกคนจะผ่านพ้นไปได้ “ปตท. พร้อมเป็นหนึ่งแรงที่จะช่วยให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” #สานพลังใจWeFightTogether
