โควิดกับการปรับตัวของธุรกิจแบบ New normal

New Normal คำคุ้นหูที่ได้ยินบ่อยครั้ง ประเด็นร้อนฉ่า ที่เป็นพาดหัวข่าวทั่วโลกก่อนหน้าคงหนีไม่พ้น วิกฤตการณ์ Covid-19 ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า ตั้งแต่วิถีชีวิต ยันภาคธุรกิจ สุภาษิตว่า ไผ่ลู่ลม โอนอ่อนผ่อนตาม ย่อมไม่หักล้ม

วิถีชีวิตดั้งเดิมจึงต้องปรับเปลี่ยน ให้สอดคลองกับกระแสลมที่แปรเปลี่ยนทิศ แต่ทั้งหมดนั้นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบทหนังสือเล่มใหม่ บางสิ่งล้มหาย บางสิ่งเติบใหญ่

บทสัมภาษณ์ คุณภคศุภ เพ็ชรดี ประธาน กรรมการ บริษัท ดิจิมัสเกตเทียส์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง การตลาดออนไลน์ยุค 4.0 กล่าวว่า“การปรับตัวธุรกิจในยุค New Normal นั้น เป้าหมายอาจไม่ใช่หาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่หากเป็นการหาหนทางสู่การประคอง ให้ทุกภาคส่วนอยู่รอดและเติบโตผ่านวิกฤตไปพร้อมกัน”

กลยุทธ์ OMO (Online Merge Offine) คือการผสมผสานกันระหว่างการทำธุรกิจภาคออฟไลน์และการทำธุรกิจภาคออนไลน์ให้ทั้งคู่เชื่อมต่อเข้าหากัน “กลยุทธ์ OMO ดียังไง?” ในการทำธุรกิจโลกออฟไลน์นั้น การเปิดหน้าร้านในทำเลที่เหมาะสมย่อมส่งผลให้เกิดโอกาสคนเข้าถึงหน้าร้านได้มากขึ้น

Advertisement

การผสมสานการทำธุรกิจแบบการตลาดออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่เพิ่มช่องทางให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลก เข้าถึงร้านของคุณได้โดยไม่ต้องผ่านขับรถหรือเดินผ่านหน้าร้านของคุณเลยด้วยซ้ำ 

การผสานทั้งสองเข้าด้วยกันนอกจากจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของลูกค้าแล้ว เรายังได้ช่องทางการติดต่อหาลูกค้าได้โดยตรงหากมีโปรโมชั่น หรือต้องการโปรโมทสินค้าล็อตใหม่ เราก็สามารถ Re-Marketing ส่งตรงถึงมือถือลูกค้าของเราได้เลย ยิ่งสมัยนี้มีเครื่องมือ มีเทคโนโลยีมากมาย
ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

Advertisement

ยกตัวอย่างเครื่องมือการทำการตลาดออนไลน์ ที่ทาง Digital Agency นิยมใช้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

เครื่องมือ Social Mornitoring เป็นเครื่องมือที่คอยจับกระแสความสนใจสังคม กระแสความคิดเห็นที่มีต่อแบรนด์ทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้าพูดถึงพฤติกรรมของผู้คนในยุคนี้ การเลือกซื้อสินค้าหรือบริการบางอย่างก็จะ Research หาข้อมูลผ่านอินเตอร์เนตกันเองก่อน ดูรีวิวว่าดียังไง
มีใครบ่นถึงข้อเสียไหม มันจะดีแค่ไหนถ้าเรามีเครื่องมือที่สามารถเช็คความคิดเห็นผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ การมีเครื่องที่คอยตามกระแสสังคม จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ให้เราสามารถวางแผนการทำการตลาดออนไลน์และวางแผนการทำธุรกิจได้ถูกที่ ถูกเวลา และตรงจุดทำคะแนน

เครื่องมือ Data Studio  เครื่องมือนี้เป็นตัวช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าจากข้อมูลทางสถิติของการทำการตลาดออนไลน์ให้ออกมาเป็นกราฟ หรือแผนภาพที่เข้าใจได้ง่าย เครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า รู้ความชอบ รู้จุดดี จุดเสียของธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับปรุงให้ตอบโจทย์กับแผนการตลาดในอนาคตได้ 

เจ้าตัวเครื่องมือ Data Studio จะเชื่อมต่อฐานข้อมูล Data Analysis ที่เราเก็บผ่านเว็บไซต์  หรือแม้กระทั้ง Tiktok แอพลิเคชั่นน้องใหม่ ก็สามารถเก็บข้อมูลได้ เมื่อพูดถึงโซเชียลมีเดียแล้วตอนนี้ Facebook เองก็เริ่มพัฒนา (Social Commerce) และปล่อยฟีเจอร์ด้านการขายของออนไลน์ให้ทันต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เริ่มหันมาใช้ E-Commerce มากขึ้น จากสถิติการใช้แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เห็นได้ชัดเจนว่าช่วงสถานการณ์ Covid-19 มียอดการใช้บริการเพิ่มขึ้น เช่น Shoppee เพิ่มขึ้น 478.6% และ Lazada เพิ่มขึ้น 121.5% อ้างอิงจาก สำนักงาน กสทช. และในปี 2021 เป็นต้นไป E-Commerce จะขึ้นติดเป็นเทรนด์การซื้อขายกระแสหลัก ที่มาแรงแซงทางโค้งอย่างแน่นนอน

เตรียมพร้อมก่อน ถึงเส้นชัยก่อน หลายธุรกิจเริ่มหันมาเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์กันมากขึ้นอย่างหนาตาในช่วงนี้จะเป็นธุรกิจประเภทอาหาร ที่ต้องเร่งปรับตัว พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ปกติจากเดิมบางร้านขายเฉพาะหน้าร้านเท่านั้น แต่ด้วยเหตุการณ์ Covid-19 อย่างที่ทุกคนรู้กัน
ทำให้หลายต้องเพิ่มช่องทางการซื้อขายผ่านออนไลน์ ผลปรากฎว่า ได้ทั้งยอดซื้อจากทั้งฐานลูกค้าเดิมที่ซื้อประจำ แถมลูกค้าใหม่ที่จากการเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ อีกด้วย ในอนาคตเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคคุ้นชิ้นกับการจับจ่ายผ่านโลกออนไลน์ การตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) จะเป็นอีกหนึ่งหนทางให้ผู้คนทั้งโลก กลายมาเป็นลูกค้าคุณ

“ไผ่ลู่ลมจะไม่ใช้เพียงสุภาษิต แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส”

หากท่านใดสนใจเรื่องการตลาดออนไลน์ บริษัท ดิจิมัสเกตเทียส์ จำกัด
เรามีทีมงานคุณภาพประสบการณ์การทำงานด้านการตลาดออนไลน์กว่า 10 ปี
เราพร้อม และยินดีให้การดูแลทุกท่าน

 

ติดต่อเรา โทร 02-047-0088 

digimusketeers.co.th 

Line : @digimusketeers

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image