5 วิธีแปลงของไม่ได้ใช้ให้กลายเป็นของมีค่า โลกสวยด้วยมือเราแบบง่ายๆ

เคยนับกันบ้างไหมว่าทุกวันหลังจากที่ตื่นนอน ไปเรียนหรือทำงาน กินอาหาร ช้อปปิ้ง ออกกำลังกาย ฯลฯ จนกว่าจะเข้านอนอีกครั้ง เราเพิ่มขยะให้กับโลกนี้จำนวนกี่ชิ้น และเมื่อคูณด้วย 365 วัน ขยะทั้งหมดจากมือเรารวมแล้วจะมีกี่ร้อยกี่พันชิ้น

นอกจากการคิดหาแนวทางลดปริมาณขยะที่อาจต้องไปปรึกษาสายกรีน วันนี้เรามี 5 วิธีแปลงของใช้รอบตัวที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นของมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง แถมยังอาจกลายเป็นของที่มีคุณค่าสำหรับผู้ได้รับมากกว่ามูลค่าที่เราซื้อมาอีกต่างหาก

จากหลอดดูดน้ำสู่ ‘หมอนหลอด’ เพื่อผู้ป่วยติดเตียง

Advertisement

เราอาจจะเคยเห็นภาพของเต่าทะเลโชคร้ายจากการที่หลอดดูดน้ำติดรูจมูก รู้หรือไม่ว่าหลอดพลาสติกนอกจากเป็นศัตรูตัวฉกาจของสัตว์น้ำแล้ว ยังเป็นขยะที่ยากต่อการกำจัด ทั้งยังสร้างมลพิษให้กับทรัพยากรใต้ดินและมลภาวะทางอากาศอย่างมาก แต่เวลานี้มีวิธีสร้างคุณค่าได้ง่ายๆ เพียงรวบรวมหลอดเก่ามาล้างให้สะอาด ตากแดดจัดๆ ให้แห้งสนิท จากนั้นก็มาตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปส่งต่อให้กับมูลนิธิพลังที่ยั่งยืนของ ปตท. เพราะจะมีการนำไปต่อยอดเป็นหมอนหลอดที่สามารถระบายอากาศได้ ลดการสะสมไรฝุ่น ช่วยลดการเกิดแผลกดทับ เหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง

‘จีวรพระ’ รักษ์โลก จากขวดพลาสติก 

Advertisement

ขวดพลาสติกที่พวกเราใช้ในชีวิตประจำวันอย่างฟุ่มเฟือย กว่าจะสูญสลายไปได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 450 ปี แต่มีทางลัดที่ง่ายกว่านั้นเพียงแค่นำขวดพลาสติกเก่ามาส่งมอบให้กับโครงการผ้าบังสุกุลจีวรจากขวดพลาสติกรีไซเคิล วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแปลงให้เป็นเส้นใยตามกระบวนการ Upcycling แล้วนำมาถักทอผสมผสานกับเส้นใยเรยอน เส้นใยฝ้าย และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย เพื่อให้ได้จีวรพระที่มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ นุ่มและระบายอากาศได้ดี 

กล่องพัสดุและซองเก่ากลายเป็น ‘โต๊ะ-เก้าอี้’ สุดเก๋ 

เชื่อว่าเป็นกิจวัตรประจำวันของคนไทยไปแล้วสำหรับการ CF ของตามช่องทางออนไลน์ ขยะของบรรดานักช้อปเหล่านี้ก็คือกล่องพัสดุและซองที่ไม่ใช้ล้นบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะขายแบบชั่งกิโลกันได้ไม่กี่บาท แต่ล่าสุดไปรษณีย์ไทยขอเชิญชวนคนไทยนำกล่องและซองที่ไม่ใช้แล้วมาให้ที่โครงการไปรษณีย์ reBOX เปลี่ยนกล่อง/ซองเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 เพื่อนำกล่อง/ซองเหล่านี้ให้เอสซีจีผลิตเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ส่งมอบให้กับ น้องๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งถือว่าได้สองเด้ง เพราะทั้งช่วยลดการตัดต้นไม้ และยังทำให้กล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วกลับมามีคุณค่ามากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ความพิเศษของโครงการนี้คือสามารถนำกล่องพัสดุและซองของทุกแบรนด์ ไม่จำกัดแหล่งที่มา ไปหย่อนได้ตามจุดของที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง หรือจุดรับกล่อง/ซอง ที่ต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ใครสนใจก็สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.thailandpost.co.th

วัสดุอะลูมิเนียมแปลงร่างเป็น ‘ขาเทียมพระราชทาน’

กระป๋องเครื่องดื่มนับเป็นขยะที่พบเจอได้ทั่วไปตามข้างทาง ขยะชนิดนี้สามารถแปลงร่างให้เป็นขาเทียมสำหรับผู้พิการที่ขาดแคลนใน “โครงการบริจาคอะลูมิเนียมเพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน” สามารถร่วมบริจาควัสดุอะลูมิเนียมที่ใช้แล้ว เป็นต้นว่า ห่วงจากฝาหรือกระป๋องเครื่องดื่ม ฝาเครื่องดื่มแบบฝาเกลียว กระป๋องน้ำอัดลม เศษอะลูมิเนียมจากข้อต่อ/บานพับ/รั้ว ชิ้นส่วนจากเครื่องจักรหรืออะไหล่รถยนต์ ฯลฯ ก่อนจะส่งก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นบรรจุกล่องหรือซอง น้ำหนักไม่เกินกล่องละ 5 กิโลกรัม ส่งไปที่กรมควบคุมมลพิษ เลขที่ 92 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 พร้อมกับระบุ “วัสดุอะลูมิเนียมใช้แล้ว” สำหรับโครงการนี้ ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศยินดีรับส่งให้ฟรี

‘แบ่งปันความสวย’ ด้วยเครื่องสำอางหมดอายุ

คงจะสุขใจพร้อมกับลดความเสียดายไปได้หากว่าลิปสติกสีที่ซื้อมาแล้วไม่ชอบ แป้งพัฟที่ขาวเกินเบอร์ หรือโยนทิ้งไว้ในลิ้นชักจนหมดอายุ ได้มีโอกาสแบ่งปันความสวยให้กับผู้ที่เพิ่งจากลาโลกนี้ไป โดยนำไปบริจาคให้กับโครงการแบ่งบุญสวยกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฯลฯ เพียงเท่านี้เครื่องสำอางของทุกคนก็จะมีความหมายมากขึ้น

เป็นแนวทางง่ายๆ ที่จะทำให้ขยะเหล่านี้ กลับมามีชีวิตเพื่อสร้างคุณค่าให้กับโลกใบนี้อีกครั้ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image