“เอื้อมพร ปัญญาใส” CEO “หญิงเหล็ก” แห่ง PACIFIC PIPE พาองค์กรฝ่าวิกฤตปฏิรูปสู่ “Steel Material” ปลูกฝัง Growth Mindset

บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP ผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็ก  รายใหญ่ของประเทศไทย ครอบคลุมสินค้ามากกว่า 5,000 รายการ ด้วยกำลังการผลิตรวม 450,000 ตัน/ปี มุ่งตอบสนองความต้องการการใช้งานของลูกค้า ทั้งในงานโครงสร้างประเภทต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม โครงสร้างท่าอากาศยาน โครงสร้างคลังสินค้า โครงสร้างอาคารสูง และในรูปแบบงานระบบ เช่น งานระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบชลประทาน ระบบสุขาภิบาล เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเน้นเรื่องพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาด โดยเน้นการให้บริการเสริมด้านการแปรรูปเหล็ก (Steel Service) การตัด ดัดโค้ง ชุบ เคลือบสี ช่วยลดภาระของผู้รับเหมา ทั้งในด้านต้นทุน และสถานที่ ตลอดจนประหยัดเวลาในการติดตั้งที่หน้างาน

PAP เดินหน้าปฏิรูปองค์กรสู่ “Steel Material” 

คุณเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) แม่ทัพของ PAP กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่นี้ว่า การจะนำพาองค์กรขนาดใหญ่ให้เติบโตท่ามกลางความท้าทาย การแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ รวมไปถึงการ Disruption ที่มีให้เห็นตลอดในปัจจุบันนี้ คือโจทย์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เข้ากับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ต่อให้ไม่มี COVID-19 ความยากลำบากของธุรกิจก็ทำให้เราต้องปรับตัวอยู่ดี การมาของ COVID-19 ก็ทำให้เราได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดจะทำมาก่อน แถมยังเป็นตัวเร่งการ Transform 

Advertisement

แปซิฟิกไพพ์ ประกาศนโยบายมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย Steel Material ภายใน 4 ปี รวมถึงมีการปรับโครงสร้างภายใน มุ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการต้นทุน และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการเตรียมควาพร้อมขององค์กร พัฒนาพนักงาน ที่ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของบริษัทฯ เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้การดำเนินงานบรรลุความสำเร็จตามเป้าหมาย ปลูกฝังทัศนคติของคนทำงานให้พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา ให้องค์กรปรับไปสู่การเป็น Learning Organization และมีการตั้งทีมการตลาดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจลูกค้าและคู่ค้า ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจแบบ Total Solutions

อุตสาหกรรม ‘เหล็ก’ ต้อง ‘Transform’ เพื่อเติบโต

อุตสาหกรรมเหล็กของไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างดั้งเดิม และห่างไกลจากการเป็นอุตสาหกรรม 4.0 อีกทั้งประเทศไทยต้องนำเข้าเหล็กต้นน้ำจากต่างประเทศ เนื่องจากประเทศเราไม่มีโรงถลุงเหล็ก มีแต่อุตสาหกรรมเหล็กกลางน้ำและปลายน้ำ แปซิฟิกไพพ์เป็นอุตสาหกรรมเหล็กปลายน้ำ คือ การเป็นผู้ผลิตเหล็กรูปพรรณ จึงต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเราไม่สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตเองได้ตั้งแต่ ต้นน้ำ นอกจากผลกระทบจาก COVID-19 อุตสาหกรรมเหล็กยังมีเรื่องสงครามทางการค้า อย่างก่อนหน้านี้เหล็กในประทศไทยได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาดจากเหล็กจีน เกิดกาแข่งขันเรื่องราคา ส่งผลให้ราคาเหล็กมีความผันผวนสูง 

แปซิฟิกไพพ์ จึงให้ความสำคัญเรื่องของ Transformation โดยเริ่มจากการเพิ่มการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเหล็กให้กับผู้บริโภครายย่อยมากขึ้น ให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน ยกระดับคุณภาพของ Ecosystem ในอุตสาหกรรมเหล็ก ที่ส่วนใหญ่นำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งมีทั้งผู้รับเหมา วิศวกร ที่ปรึกษา สถาปนิก หรือแม้แต่ End-user ในปัจจุบันก็ต่างเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกใช้วัสดุ ต่างๆ ด้วยตนเองมากขึ้น

วิสัยทัศน์ของแปซิฟิกไพพ์ คือการเป็นมากกว่าผู้ผลิตท่อเหล็ก เพราะเราต้องการเป็น “Total Solution” ให้กับลูกค้าทุกรายได้ เริ่มต้นจากการพัฒนาคนหรือพนักงานของเรา การปลูกฝังทัศนคติของคนทำงานให้พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้องค์กรเกิดเป็น องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) โดยช่วงที่เกิดวิกฤต COVID-19 คือบทพิสูจน์หนึ่งที่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน  ถ้าพนักงานทั้งในส่วนออฟฟิศและโรงงาน ทุกคนสามารถปรับตัวต่อการทำงานในรูปแบบใหม่ได้ทันที ก็จะทำให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง  

“วันนี้แปซิฟิกไพพ์กำลังก้าวไปสู่ Steel Material เราจะไม่ใช่แค่ผู้ผลิตท่อเหล็ก แต่เราจะเป็นหนึ่งในวัสดุ เมื่อลูกค้าอยากได้สะพาน อยากได้อาคาร เราต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ลูกค้านึกถึง  และปัจจุบันวัสดุทางเลือกในการก่อสร้างต่างๆ ก็มีอยู่เยอะมาก ถ้าเรายังจมอยู่กับความเป็นท่อเหล็ก  เราอาจจะไม่ยั่งยืน เราต้องมองให้รอบด้าน เช่น เรื่องของวัสดุ ซัพพลายเชน ต้องจับตลาดให้ทัน  ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราพยายามพัฒนาเรื่องคนก่อนเป็นอันดับแรก สร้าง Mindset ในการเรียนรู้ เพื่อให้ทีมงานสามารถต่อยอดองค์ความรู้ สร้างตลาดใหม่ รู้จักและเข้าใจลูกค้าจนสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากกว่าเป็นแค่ผู้ผลิตท่อเหล็ก ยกระดับความสามารถให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

Work life Integration คือแนวทางการทำงานของ ‘เอื้อมพร ปัญญาใส’

การทำงานในปัจจุบันคำว่า Work Life Balance มันอาจจะใช้ไม่ได้ เพราะมันไม่มีทางบาลานซ์อยู่แล้ว เพราะแต่ละคนมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทำงานตอดเวลา  สิ่งที่เราต้องปรับให้ได้คือการ ทำ Work ให้เป็น Life ทำให้มันอยู่ด้วยกัน มันจะเป็นเหมือนตาชั่งที่แบ่งการทำงานกับชีวิตเป็นสองฝั่ง แต่เราต้องทำงานให้มันสนุก ทำงานแบบเหมือนไม่ใช่งาน เพราะงานคือชีวิต ถ้าคุณแยกงานออกจากชีวิตแสดงว่าคุณทำงานแบบไม่มีชีวิต เราเชื่อว่ามันเป็น Work Life Integration ไม่ใช่ Work Life Balance

PAP มุ่งมั่น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพ ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า โดยได้รับรองมาตรฐานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ให้ความสําคัญด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และให้คําปรึกษากับลูกค้าทุกกลุ่ม นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสําคัญกับการพัฒนาบุคลากรซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าขององค์กร เพื่อให้บุคลากรมีทักษะใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทัน รวมทั้งมีกิจกรรมทางด้านการตลาดกับกลุ่มคู่ค้าและลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ดังเช่นสโลแกนของบริษัทที่ว่า หัวใจการบริหารของเราคือความซื่อสัตย์ โปร่งใส และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image