6 เมษายน 2489 หรือเมื่อ 75 ปีที่ผ่านมา คือวันก่อกำเนิดพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยหลักคิดที่สำคัญ คือนำทุกการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาชาติ เข้าสู่กระบวนการร่วมกันพิจารณ์ด้วยระบบรัฐสภา โดยยึดถืออุดมการณ์ที่สำคัญคือ จะรักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบัน 75 ปีของพรรคการเมืองที่ก่อตั้ง ได้เปลี่ยนผ่านผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาแล้วถึง 8 รุ่น
คือ 1.นายควง อภัยวงศ์ 2.หม่อมราชวงค์เสนีย์ ปราโมช 3.พันเอก(พิเศษ)ถนัด คอมันตร์ 4.นายพิชัย
รัตตกุล 5.นายชวน หลีกภัย 6.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 7.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และปัจจุบัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทั้ง 8 รุ่น ผ่านการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ละยุคมาแล้ว 4 ท่าน คือนายควง อภัยวงศ์ หม่อมราชวงค์เสนีย์ ปราโมช และนายชวน หลีกภัย ที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย และท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
การเปลี่ยนผ่านของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านยุคสมัย ผ่านการสะสมประสบการณ์ โดยยึดมั่นหลักการ และรักษาอุดมการณ์ผ่านหน้าประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย จนสามารถเรียกได้ว่า นี้คือเสาหลักทางการเมืองที่สำคัญของชาติ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
พรรคประชาธิปัตย์ หากมองย้อนถึงประวัติศาสตร์ทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่ามีส่วนต่อการพัฒนา
ในแทบทุกระดับทางการเมือง โดยมีหลักที่สำคัญคือยึดมั่นต่อระบอบรัฐสภา และไม่เคยสมยอมต่ออำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ด้วยหลักการที่สำคัญนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคในการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ ทั้งในและนอกสภา จนเป็นที่เชื่อถือของคนในสังคม ดังนั้นทุกครั้งที่เกิดวิกฤติทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ หรือแม้กระทั่งวิกฤติเศรษฐกิจ พรรคการเมืองพรรคนี้จะถูกจับตามองอย่างคาดหวัง ถึงบทบาทที่จะเป็น
ทางออกของประเทศมาทุกยุคสมัย
ปัจจุบัน ภายใต้การนำพรรคของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ซึ่งต้องเข้ามากอบกู้พรรคที่ต้องสูญเสียที่จำนวน ส.ส.ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ในฐานะ
แม่บ้านช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ภายในพรรคจนหลายด้านลุล่วง เริ่มเข้าที่เข้าทาง มีนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ช่วยในการจัดทัพเตรียมความพร้อม ในเรื่องตัวแทนเขตเลือกตั้งและสมาชิกพรรค ซึ่งจนถึงขณะนี้มีความพร้อมแล้วเกือบ 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยมี
กรรมการบริหารพรรคทั้งที่เป็น และไม่เป็นรัฐมนตรี ต่างช่วยกันทำงาน สองปีเศษที่ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ฯ ทุ่มเทการทำงานไปที่เรื่องปากท้อง และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยความเชื่อและความคิดที่ว่า
“เมื่อประชาชนเห็นความตั้งใจ และความพยามในการทำงานเพื่อประชาชน ประชาชนจะ
กลับมาให้โอกาสเรา” แม้จะทุ่มเทการทำงานในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ของประชาชน แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงให้ความสำคัญ และคงจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการร่วมรัฐบาลครั้งนี้
จากองค์ประกอบที่สำคัญในแต่ละด้าน และจากการทุ่มเทการทำงานของหัวหน้าพรรค และบุคลากรของพรรค อนาคตของพรรคจึงสะท้อนผ่านงานทำบุญครบรอบ 75 ปี ที่ได้เห็นชาวประชาธิปัตย์ ในแต่ยุคสมัย ทั้งที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคเกือบทุกท่าน ส.ส. อดีต ส.ส. ทั้งปัจจุบันและที่เคยย้ายพรรค เริ่มกลับ
เข้ามาพูดคุยกันถึงอนาคตพรรคมากขึ้น นอกเหนือจากคนในพรรคเดิม เลือดใหม่ที่ให้ความสนใจต่อพรรคการเมืองที่เป็นเสาหลักทาง
การเมือง ทั้งรุ่นอาวุโส รุ่นกลาง รวมทั้งเยาวชน ต่างทยอยกันมาร่วมงานจำนวนมาก
วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีบุคลากรที่มีเกียรติภูมิสูงเด่น อย่างอดีตนายกรัฐมนตรี และ
ประธานรัฐสภา มีหัวหน้า เลขาธิการพรรค ที่ทุ่มเททำงาน มีบุคลากรของพรรคที่มีคุณภาพ และอุดมการณ์ที่ยึดมั่น มีบุคลากรเลือดใหม่ที่พร้อมเข้ามาเสริมทัพพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นพรรคที่อุดมด้วยประวัติศาสตร์ เข้มแข็งด้วยปัจจุบัน เพื่อเป็น
อนาคต เป็นความหวัง เป็นทางออกจากทุกวิกฤติ ให้ประเทศไทยต่อไป
อรัญ วงศ์อนันต์
ที่ปรึกษา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย
