อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต ถ้าร่างกายได้รับอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เราก็จะมีแรงกายใช้ต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามา รวมไปถึงวิกฤตโควิด 19 ระลอกใหม่ ศึกใหญ่ที่คนไทยร่วมกันเผชิญอยู่ในขณะนี้
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จึงได้นำอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ภายใต้ “โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด 19” ส่งมอบให้แก่ ศูนย์แรกรับและส่งต่อกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสนาม อาคารกีฬานิมิตรบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
โดยมี นายแพทย์ ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา พร้อมด้วย นายแพทย์ สุเพ็ชร ทุ้ยแป ผู้อำนวยการสำนักนิเทศระบบการแพทย์ และด็อกเตอร์นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นผู้รับมอบ จากนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารเครือซีพี
สำหรับ ศูนย์แรกรับและส่งต่อ กระทรวงสาธารณสุข อาคารกีฬานิมิตรบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ จัดตั้งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา สนับสนุนพื้นที่ให้ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 200 เตียง พร้อมบุคลากรเป็นกองหนุนให้ทีมแพทย์
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังผนึกกำลังกับ ซีพีออลล์ และทรู สนับสนุนอาหาร ตลอดจนครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ด้านสื่อสาร ช่วยให้การบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่นี้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของภาครัฐและเอกชน ที่จะฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน
“โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ดำเนินการมาตั้งแต่การระบาดรอบแรก ปี 2563 ภายใต้โครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19 เพื่อช่วยแบ่งเบาภารกิจการจัดเตรียมอาหารของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผู้เสียสละและเป็นด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วย และในครั้งนี้ซีพีเอฟ ได้นำอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานหลากหลายเมนู จำนวน 2,100 แพ็ค มอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ เพื่อแทนคำขอบคุณและส่งกำลังใจให้บุคลากรสาธารณสุขทุกท่านที่มาร่วมทำหน้าที่สำคัญนี้
เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ได้มอบแนวทางให้ทุกบริษัทในเครือฯ เร่งสนับสนุนวงการแพทย์ในการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ด้วยตระหนักดีว่าความร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องทำ จึงจัดตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาท สนับสนุนด้านอาหาร น้ำดื่ม ตลอดจนระบบการสื่อสารและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลสนาม ด้วยมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว และจนถึงขณะนี้เครือฯ ให้การสนับสนุนโรงพยาบาลมาแล้ว 88 แห่ง ทั่วประเทศ
