เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวในรายการ “สุขกาย สุขใจ ห่างไกล โควิด-19” งาน “เฮลธ์แคร์ 2021 วัคซีนประเทศไทย” #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน มหกรรมสุขภาพออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ซึ่ง “เครือมติชน” ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม นี้
ตอนหนึ่งของรายการ อธิบดีกรมพลศึกษา ได้แนะเคล็ดลับและวิธีดูแลตัวเองให้แข็งแรงทั้งกายใจ การปฏิบัติตนในการรับมือ โควิด-19 ว่า นิยามของการมีสุขภาพที่ดีนั้น คือการปลอดจากโรคภัย การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพื่อที่จะประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ ควบคู่ไปกับการมีสมรรถภาพที่ดีคือมีความพร้อมด้านร่างกาย มีพละกำลัง ความแข็งแรงของร่างกายและประสาทสัมผัส ที่สัมพันธ์กับระบบในร่างกาย เมื่อสมรรถภาพที่ดีตามมา สิ่งที่ละทิ้งไม่ได้คือ สุขภาพใจที่ดี คือ ต้องไม่เครียดซึ่งอาจหลีกเลี่ยงได้ยากในปัจจุบัน แต่การออกกำลังกายจะเป็นแนวทางที่สามารถเสริมสร้างได้ทั้งสมรรรถภาพร่างกายและเป็นกิจกรรมคลายความเครียดได้ในเวลาเดียวกัน
การอยู่บ้านนานๆ นอกจากจะทำให้เครียดยังทำให้สมรรถภาพทางกายลดลง เนื่องจากร่างกายไม่ได้มีการใช้งานในระบบต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภารกิจของกรมพลศึกษาคือส่งเสริมให้ประชาชนมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีผ่านการมีกิจกรรมทางกาย ดังนั้น เราจึงจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนไทยที่อยู่ที่บ้านได้การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น ฟิต ฟอร์ม โฮม และกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยได้มาออกกำลังกาย ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ไม่น้อยกว่า 3 วัน จะทำให้สมรรถภาพที่ดียิ่งขึ้นก็มีกิจกรรมความเครียดก็จะลดลง โดยกลุ่มเป้าหมายคือเด็กเยาวชน ประชาชน ผู้สูงอายุ ได้เข้าถึงกิจกรรมออกกำลังกาย กีฬา นันทนาการ โดยสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ มีคลิปวิดีโอสอนออกกำลังกายทางยูทูบ และไลฟ์สดสอนออกกำลังกายผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของกรมพลศึกษา
“เราเข้าใจคนที่เคยออกกำลังกายแล้วไม่ได้ออกกำลังกาย กรมพลศึกษาก็ยังร่วมกับกรมอนามัยผลักดันในเรื่องของการที่จะให้เปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้กับคนที่อยากออกกำลังกาย เมื่อสวนสาธารณะหรือสนามกีฬาต่างๆ ต้องปิด เราจึงทำคลิปแนะนำ แล้วค่อยชวนชวนให้เอาคนไทยมาการออกกำลังกายอยู่กับบ้าน เช่น เดินขึ้นลงบันได เดินเร็ววนในบ้าน หรือเดินรอบบ้าน รวมทั้งออกกำลังกายในพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น การกระโดดเชือก แอโรบิก และโยคะ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นกิจกรรมที่เราพยามส่งเสริมให้ประชาชนได้ขยับร่างกาย
“ส่วนประการที่สองคือเรื่องของจิตใจ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ ก็คือ อย่าดูถูกตัวเอง ไม่บูลลี่คนอื่น ต้องให้กำลังใจทั้งตนเองและทุกคนรอบข้าง จะทำให้เราอยู่อย่างมีความสุขกับสถานการณ์ และที่สำคัญ การติดตามข่าวสารต้องไม่ควรมากเกินพอดีเพื่อลดการเกิดความเครียด ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ติดตามวันละไม่เกิน 2 ครั้ง ดูแล้วรู้จักคิดวิเคราะห์ว่าจริงๆ แล้วเราควรที่จะใส่ใจกับข้อมูลอะไรที่จะเป็นประโยชน์ และข้อมูลใดที่สอดแทรกกับความรู้สึกมากจนเกินไป” ดร.นิวัตน์ กล่าว
นอกจากการให้องค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพกายและจิตใจแล้ว ที่ผ่านมากรมพลศึกษา เข้าไปดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ด้วยการเปิดอาคารกีฬานิมิบุตรเป็นศูนย์แรกรับและส่งต่อ เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 (pre-admission center) โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อช่วยแบ่งเบา ผ่อนคลาย ภาระ และคอขวดของกรุงเทพมหานคร โดยเน้นคัดกรอง และส่งต่อสำหรับผู้ติดเชื้อระดับสีเขียวเป็นหลัก ภายในศูนย์ มีแพทย์ พยาบาล รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างครบครัน ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายนสามารถให้บริการผู้ป่วยไปแล้วเกือบ 9,000 คน ขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่บริเวณศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อรองรับผู้ที่มีความเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อหลังจากการคัดกรองของฝ่ายสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ซึ่งกรมพลศึกษา ได้จัดเตรียมพื้นที่หอพักนักกีฬาไว้รองรับผู้ที่ถูกกักตัวได้จำนวน 120 คน โดยผู้ที่ตรวจพบว่ามีความเสี่ยง จากการพิจารณาของสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี จะต้องถูกกักตัวไว้เป็นระยะเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมพลศึกษา ฝากข้อปฏิบัติในการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยจาก โควิด-19 ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้จักป้องกันตัวเอง อยู่ที่บ้านพึงระมัดระวังกับผู้ใกล้ชิดรอบข้าง ขอความร่วมหยุดตัวเองอยู่กับบ้าน ปฏิบัติตามคำแนะนำของ สบค. และสิ่งสำคัญคือทำอย่างไรที่จะใช้ชีวิตให้มีความเครียดน้อยที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างที่แนะนำไปคือควรหากิจกรรมและการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และกิจกรรมนันทนาการเล็กๆ น้อยๆ เติมเข้ามา เมื่อสุขภาพกายและใจแข็งแรงดี สุดท้ายมันจะผ่านตรงนี้ไปได้”
ติดตามรายการและหัวข้อที่น่าสนใจอื่นๆ ในงาน “Healthcare 2021 วัคซีนประเทศไทย” #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน ได้ในทุกช่องทางสื่อออนไลน์เครือมติชน ตั้งแต่วันที่ 18-22 สิงหาคมนี้
#เครือมติชน #ประเทศไทยไปต่อ #มติชน #ข่าวสด #ประชาชาติธุรกิจ #Healthcare2021 #วัคซีนประเทศไทย #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน
