สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาการแยกห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ของอุตสาหกรรมสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน และนัยต่อเศรษฐกิจไทย
จากการที่สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย ในขณะที่จีนเป็นคู่ค้าและแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ของไทย ความพยายามในการแยกห่วงโซ่อุปทานที่กำลังเกิดขึ้นจึงน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งด้านการค้าและการลงทุน คำถามสำคัญคือ ใครได้ประโยชน์จากการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจที่ลดลง ไทยได้/เสียประโยชน์หรือไม่ อย่างไร และไทยสามารถแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสได้หรือ ไม่ ซึ่งคำถามเหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์ที่มีความท้าทายต่อเศรษฐกิจอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาวิเคราะห์นโยบาย สถานการณ์ และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับการแยกห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญและจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ตลอดจนประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าของโลกและไทย และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการกำหนดแนวทางของประเทศ เพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางเศรษฐกิจการค้าที่จะเกิดขึ้น
โครงการศึกษาฯ ได้ติดตามสถานการณ์การแยกห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ ทำการวิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและไทย เนื่องจากภาคการผลิตของไทยต่างเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ และจีน โดยศึกษาผ่านองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของโลก ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้มการค้าและแผนผังการลงทุนของบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมยานยนต์ และรวบรวมความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผ่านการสัมภาษณ์และระดมสมอง เพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ที่รอบด้าน และนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ให้ไทยได้ประโยชน์ท่ามกลางกระแสการแบ่งแยกห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ การศึกษาคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 เดือนข้างหน้า
