จากบทสรุปการจัดงาน 9 ทศวรรษ รวมตัวสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ที่ผ่านมานั้น ภายในงานประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรม SuanDusitness กิจกรรมการประกวดงานเย็บร้อย ค่อยจีบ ประดิษฐ์ใบตอง ระดับชาติ ครั้งที่ ๑๑ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง และ กิจกรรม SDU Community Engagement Expo 2023 ซึ่งกิจกรรม SDU Community Engagement Expo 2023 ได้ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานในภาพรวม ร้อยละ 91 โดยมีผู้เข้าร่วมงานออนไซต์ 1,929 คน และ ออนไลน์ 27,760 คน
รองศาสตราจารย์ ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาการศึกษา ในนามของผู้รับผิดชอบหลักด้านการวิจัย กล่าวว่า กิจกรรม SDU Community Engagement Expo 2023 เป็นการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ทางคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฯ มีส่วนร่วมพัฒนาให้แต่ละชุมชนในจังหวัด สุพรรณบุรี สร้างสรรค์นวัตกรรม และงาน Expo ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนให้นำผลิตภัณฑ์ที่มหาวิทยาลัยได้ร่วมพัฒนามาจัดจำหน่าย ภายใต้กิจกรรม ชิม ช้อป ชิล สินค้าเกษตรปลอดภัยวิถีใหม่ โดยมี 41 ชุมชน ในพื้นที่ 10 อำเภอ จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมออกบูธจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร (GAP) ผัก-ผลไม้ สินค้าเกษตรแปรรูปจากปศุสัตว์และประมง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ของชุมชนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ด้าน ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนการเลี้ยงแพะเนื้อ อ.อู่ทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เข้ามาช่วยเหลือชุมชนผ่านปศุสัตว์จังหวัดสุพรรณบุรี ตนเองเมื่อทราบว่ามหาวิทยาลัยสวนดุสิต จะเข้ามาช่วยเหลือก็รู้สึกยินดี เพราะทางมหาวิทยาลัยฯ มีชื่อเสียงด้านอาหารมาอย่างยาวนาน ซึ่งได้เข้ามาช่วยแปรรูปเนื้อแพะ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ แพะแดดเดียว และ แพะปิ้งนมสด
โดยได้นำองค์ความรู้และเทคนิคต่างๆมาสอนชุมชน ทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น และได้มาตรฐาน ซึ่งวันงาน 9 ทศวรรษ รวมตัวสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน ทางชุมชนก็ได้ไปออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แพะแดดเดียว และ แพะปิ้งนมสด ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะตอนแรกไม่ได้คาดหวังยอดจากการจำหน่ายอยู่แล้ว หวังเพียงแค่อยากไปเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก ส่วนอนาคตข้างหน้าอยากให้ทางมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ช่วยพัฒนาเมนูอาหารที่พร้อมรับประทาน และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
สุดท้าย ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่กุ้งก้ามกรามบ้านสะพานพัฒนา กล่าวปิดท้ายว่า ตนในฐานะตัวแทนชุมชนบ้านสะพานพัฒนา รู้สึกดีใจที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ลงพื้นที่นำองค์ความรู้เข้ามาพัฒนาชุมชนมหาวิทยาลัยฯ ได้ช่วยสอนวิธีการแปรรูปอาหารจากกุ้งก้ามกามหลายเมนู เช่น น้ำพริกกุ้งสมุนไพร กุ้งเหยียบ และผลิตภัณฑ์ล่าสุด คือ กุ้งก้ามกรามดองซีอิ๊ว ซึ่งปกติทางชุมชน มีรายได้จากการจัดจำหน่ายกุ้งสดจากบ่อเลี้ยงขายส่งให้พ่อค้าคนกลางเท่านั้น
พอมหาวิทยาลัยสวนดุสิตเข้ามาให้องค์ความรู้ ทางชุมชนก็สามารถสร้างอาชีพ/รายได้เพิ่มมากขึ้น เพราะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ท้องตลาด และในงาน 9 ทศวรรษ รวมตัวสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาอย่างยั่งยืน ก็ได้มาร่วมออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์เช่นกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์จากชุมชนเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคก็ติดใจในรสชาติ กุ้งก้ามกามดองซีอิ๊ว เพราะน้ำซอสเข้มข้น หอมอร่อย ไม่เหมือนใคร จึงอยากขอบคุณมหาวิทยาลัยสวนดุสิตมา ณ ที่นี้ด้วย และอยากให้มหาวิทยาลัยฯ ช่วยพัฒนาแพ็กเกจ และวิธียืดอายุผลิตภัณฑ์ ให้ยาวนานขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัดที่สนใจรับประทานผลิตภัณฑ์ของทางชุมชน
