คอลัมน์หน้า 3 : เส้นทาง อำนาจ ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เส้นทาง การเมือง
ความขัดแย้งจากสถานการณ์การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้พ้นจากการเป็น “รัฐมนตรี” ยังไม่พัฒนาหรือยกระดับขึ้นเป็นความขัดแย้ง “หลัก”
เป็นการ “ประลอง” แต่ก็เป็นการประลองใน “เส้นทาง” เดียวกัน
การที่โดยรอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มี ส.ส.ไม่ถึง 10 คน ขณะที่โดยรอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มี ส.ส.เกือบ 60 คน
อาจก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ วัดบารมี
แต่ปมเงื่อนอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตระหนักรู้ก่อนแล้วหรือไม่ นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่ากัปปิยโวหารจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นอย่างไร
นี่จึงเป็นเรื่องที่มอง “ตา” ก็รู้ไปถึง “หัวใจ”
นี่จึงเป็นเรื่องที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สามารถจำกัดกรอบแห่งความขัดแย้งให้อยู่ในจุดที่ประนอมกันได้
ภายใต้ “ยุทธศาสตร์” ในทาง “การเมือง”
สถานการณ์การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากการเป็น “รัฐมนตรี” เป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมและแหลมคมอย่างแน่นอน
เนื่องจากสะท้อน “รูปธรรม” แห่ง “ความขัดแย้ง”
เพียงแต่เป็นความขัดแย้งอย่างเด่นชัดระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี
ก่อให้เกิดความหงุดหงิดไม่พอใจอย่างแน่นอน
แต่ความหงุดหงิดไม่พอใจนั้นก็ได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็วจากปฏิบัติการทางการเมือง 2 ปฏิบัติการอย่างทันทีทันใด
นั่นก็คือ การยังคงให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค
นั่นก็คือ การแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้ามาอยู่ในตำแหน่งประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
เท่ากับเป็นการเตือนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเดินสายไปตรวจราชการที่เพชรบุรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่พระนครศรีอยุธยา
เท่ากับเป็นการขีดเส้น แบ่งอำนาจ
โดยเนื้องานเป็นความรับผิดชอบในฐานะของ “นายกรัฐมนตรี” และเป็นความรับผิดชอบในฐานะของ “รองนายกรัฐมนตรี”
แต่บรรยากาศ “แวดล้อม” คือ “เส้นแบ่ง”
อย่าแปลกใจหากที่แวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเพียง ส.ส.ในพื้นที่และปริมณฑล แต่สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คึกคักและอบอุ่น
เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือหัวหน้าพรรค
นี่ย่อมเป็นงานในความรับผิดชอบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค โดยความเห็นชอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นี่คือการขีด “เส้นแบ่ง” ระหว่างรัฐบาลกับพรรคการเมือง
เหมือนกับหลังสถานการณ์วันที่ 8 กันยายน อำนาจจะอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านกลับตรงกันข้าม
อำนาจเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ไม่ว่าเส้นทางเดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าบทบาทในแต่ละก้าวย่างของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ล้วนอยู่ในการกำกับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ