| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : บทบาท การเมือง ธรรมนัส เศรษฐกิจไทย บทบาท ‘ต่อรอง’
พลันที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ยื่นใบลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ
ก็สร้าง “ภาพชัด” ในทาง “การเมือง”
ถามว่าการตัดสินใจและออกแอ๊กชั่นอย่างอึกทึก ครึกโครมของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ครั้งนี้มาจากความริเริ่มของตนหรือไม่
มีน้อยคำตอบที่จะ “เชื่อ” ว่าเป็นเช่นนั้น
สถานะสำคัญของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในความรับรู้ของสังคมก็คือ การเป็นกรรมการผู้ช่วย “นายกรัฐมนตรี”
ณ วันนี้ ตำแหน่งนี้ก็ยังเป็นของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์
เป็นไปได้หรือที่คนอย่าง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ จะไปขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติโดยมิได้มีการมอบหมาย
อย่าลืมเขาเป็นเจ้าของเพลง “กตัญญูทักษิณ”
ผลดีจากการขยับของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ทำให้ภาพแห่งความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในกลุ่มกู้กุมอำนาจรัฐมีความชัดเจน
ชัดเจนเมื่อลาออกจาก “พลังประชารัฐ”
ทำให้เกิดนัยประหวัดไปยังการเกิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐเมื่อเดือนเมษายน 2560 ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
นั่นคือ การได้รับเชิญเข้าทำเนียบรัฐบาลของ 2 กลุ่มการเมือง
กลุ่มหนึ่งเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มหนึ่งเป็น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
คนที่จัดการในเรื่องนี้คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
หากการเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2560 คือการเริ่มต้น อุบัติแห่งพรรครวมไทยสร้างชาติในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คือจุดสิ้นสุด
ยืนยัน ความร้าวลึกภายใน “3 ป.”
ท่ามกลางเสียงคาดหมายถึงอนาคตที่เรียวลงเป็นลำดับของพรรคพลังประชารัฐ จังหวะก้าวในทางการเมืองดำเนินไปอย่างไร
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เริ่ม “ขยับ”
เป็นการขยับในขณะที่ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยื่นใบลาออกจากพรรคพลังประชารัฐและประกาศแนวทางการเมือง
เป้าหมายวางอยู่ที่ “เศรษฐกิจไทย”
ขณะเดียวกัน เริ่มมีการปล่อยข่าว “ลือ” ในเรื่องการปรับ ครม. โดยมีตำแหน่ง “มหาดไทย” ชูขึ้นสูงเด่น
นี่คือจังหวะ นี่คือการขับเคลื่อน
ไม่ว่าข่าวนี้จะออกมาจาก “ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าข่าวนี้จะออกมาจาก “พลังประชารัฐ” หรือพรรคเศรษฐกิจไทย
นี่ย่อมเป็น “เงาสะท้อน” ของการต่อรอง
บทบาทของพรรคพลังประชารัฐยังอยู่ในสถานะอันเป็น “แกนนำ” ของรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่การเกิดขึ้นของ “เศรษฐกิจไทย” ก็เป็นอีกสถานะหนึ่ง
ไม่ต่างไปจาก “ประชาธิปัตย์” ไม่ต่างไปจาก “ภูมิใจไทย”
ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ต่อรองในเรื่อง “งบกลาง” ในเมื่อพรรคภูมิใจไทยต่อรองในเรื่อง “กัญชาเสรี”
แล้วจะห้ามพรรคเศรษฐกิจไทยในการต่อรองได้ละหรือ
