เปรียบเทียบ พลัง พลัง จาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ ของ ‘ประยุทธ์’

คอลัมน์หน้า 3 : เปรียบเทียบ พลัง พลัง จาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ ของ ‘ประยุทธ์’

อํานาจอันอยู่ในตัวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แตกต่างไปจากอำนาจอันอยู่ในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็น “นายกรัฐมนตรี”

แม้ในตอนค่ำของวันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังไม่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

จึงเสมอเป็นเพียง “ว่าที่” ผู้ว่าฯกทม.

Advertisement

กระนั้น แรงสะเทือนในทาง “สังคม” ก็ปรากฏอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการที่เป็นจริงในสังคม

นั่นคือ สายโทรศัพท์ “กกต.” แทบ “ไหม้”

นั่นคือ การก่อรูปในทาง “ความคิด” กระทั่ง เกิดเป็น “กระแส” ในทางการข่าวอันเป็นส่วนหนึ่งแห่งกระบวนการทาง “การเมือง”

Advertisement

สัมผัสได้จาก #ผู้ว่ากทม.

เพียง 1 วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่พิจารณาให้การรับรอง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ในตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.”

สายตาก็มองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ถามว่าทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.” แทบไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี

ทำไมต้องมองไปยัง “ทำเนียบรัฐบาล”

แม้จะเป็นเรื่องอธิบายยาว แต่สังคมเข้าใจได้เพียงแต่มองไปยัง 2 รากฐานใหญ่ 1 คือรากฐานของ กกต.

และ 1 บทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนเลือกตั้ง

ความ “ไม่เป็น” อิสระของ “องค์กรอิสระ” เป็นที่เข้าใจ ขณะที่การเดินสายก่อนเลือกตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เด่นชัดว่าเชียร์ใคร

มิใช่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แน่นอน

พลันที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้คะแนนจากชาวกรุงเทพมหานครท่วมท้นมากถึงกว่า 1.3 ล้านเสียง ก็กลายเป็น “พลัง”

สะท้อน “เจตจำนง” ในทาง “การเมือง”

เจตจำนงของคนกว่า 1.3 ล้านเสียงหากนิยามตามอนุศาสน์ของ ญัง ญ๊าค รุสโซ่ แห่งสัญญาประชาคม

นี่ย่อมเป็น “อาณัติ” อันทรงความหมาย

เมื่อมองไปยังรากฐานที่มาของ 1 กกต. และรากฐานที่มาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งสร้างความแตกต่าง

เพราะมาจาก “รัฐประหาร” มาจาก “คสช.”

การสกัดขัดขวาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อาจสามารถทำได้เหมือนที่เคยทำกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่

แต่ผลสะเทือนที่ตามมาก็หนักหนา สาหัส

พลังของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงเป็นพลังในทาง “สังคม” อันมีรากฐานของกว่า 1.3 ล้านคะแนนเสียงรองรับ

จึงเปล่ง “พลานุภาพ” ออกมา

มีก็แต่คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับกว่า 1.3 ล้านเสียง มีก็แต่คนที่มองไม่เห็นพลังและพลานุภาพของประชาชนเท่านั้นที่หงุดหงิด

หงุดหงิดกระทั่งยก “ก้อนหิน” ทุ่มใส่ขาตนเองได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image