| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : การเมือง เป็นจริง การเมือง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ
การเดินทางของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ การเดินทางของ นายวีระกร คำประกอบ ในทางการเมืองน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
ออกจาก “พลังประชารัฐ” ไปยัง “ภูมิใจไทย”
จากที่เคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งแต่หลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ก็เปลี่ยนมาอยู่กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
เป็นเรื่องของบ้านใกล้เรือนเคียง
เป็นความน่ารักไม่ต่างไปจากกรณีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น เดินออกจากพรรคพลังประชารัฐไปอยู่บนเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ
เป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไมว่าการตัดสินใจของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ไม่ว่าการตัดสินใจของ นายวีระกร คำประกอบ ไม่ว่าการตัดสินใจของ นายสุชาติ ชมกลิ่น
อบอวลไปด้วย “ความรัก” อบอวลไปด้วย “ความผูกพัน”
การออกจากพรรคพลังประชารัฐก็น่ารักอย่างยิ่งอยู่แล้ว การอ้าแขนโอบรับจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทยก็น่ารัก
ทุกจังหวะยืนยันความเป็น “ประชาธิปไตย”
ยืนยันความมั่นใจที่จะได้เป็น “รัฐบาล” ยืนยันความมั่นใจที่พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย จะเดินบนเส้นทางเดียวกัน
เส้นทางแห่งการ “ไปต่อ” เพื่อ “ประเทศไทย”
เพียงแต่ประชาชนจะเลือกใครระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล
เพราะล้วนเป็น “พวก” เดียวกัน ล้วน “ทำงาน” มาด้วยกัน
เป็นการเสนอตัวให้ประชาชนเลือก ตัดสินใจ เป็นการเสนอตัวด้วยความเชื่อมั่นต่อจิตวิญญาณแห่งความเป็นประชาธิปไตย
บนเส้นทาง “ปฏิรูป” ก่อน “การเลือกตั้ง”
มีสายตาจำนวนไม่น้อยมองภาพที่เห็นในพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทยด้วยความมั่นใจ
มั่นใจใน “ความจัดเจน” มั่นใจใน “การเลือก”
ไม่ว่าจะมองผ่าน 1 พรรคพลังประชารัฐ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 พรรคภูมิใจไทย และ 1 พรรคประชาธิปัตย์
การปราศรัยของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี จึงน่าสนใจ
เป็นความน่าสนใจไม่ว่าเมื่อยืนพูดบนเวทีเบื้องหน้ามวลมหาประชาชน “กปปส.” เป็นความน่าสนใจไม่ว่าเมื่อยืนพูดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บทสรุป “คั้น” จาก “ความจัดเจน” ระดับเกจิ
“เราได้ ส.ส.ที่ไม่มีคุณภาพเพราะประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ได้ใช้สมองในการเลือก ผลการเลือกตั้งต้องใช้สมองด้วย”
คำพูดนี้ฝังลึก ฝังยาว ฝังนาน
บรรยากาศอันสัมผัสได้จากพรรคพลังประชารัฐ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
เป็นบรรยากาศของ “การเมือง” ที่เป็นจริง
เป็นการเมืองอันเห็นได้ชัดหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 และหลังการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562
และจะเห็นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แน่นอน
