ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
คอลัมน์หน้า 3 : ‘ปฏิมา’ แห่งยุค สุจิตต์ วงษ์เทศ ทอดน่อง ถึง ‘เพนกวิน’
เมื่อเห็นโพสต์ของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ว่าด้วย “นครวัด” ผ่านช่องทาง “เฟซบุ๊ก” เงาสะท้อนในความรู้สึกที่ตามมา
เป็นนัยประหวัดไปยัง สุจิตต์ วงษ์เทศ
จาก สุจิตต์ วงษ์เทศ ก็โยงสายยาวไปยัง นิธิ เอียวศรีวงศ์ ไปยัง ธงชัย วินิจจะกูล และที่สุดก็ จิตร ภูมิศักดิ์
นี่ย่อมเป็น “เส้นทาง” แห่ง “ประวัติศาสตร์”
ถามว่าเหตุใดจึงปรากฏชื่อของ สุจิตต์ วงษ์เทศ ขึ้นมาเป็นอันดับแรกในครรลองทางความคิด
คำตอบย่อมอยู่ที่ “ทอดน่อง”
เด่นชัดยิ่งในความฮิตของ “ทอดน่อง” อันสะท้อนการทำงาน “ร่วม” อีกคราหนึ่งของ “สองกุมารสยาม”
นั่นก็คือ “ขรรค์ชัย สุจิตต์”
หากเป็นสถานการณ์ในยุคหลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 ภาพเปรียบเทียบอันเป็นเป้าหมายของ “รุ่นใหม่” ดำเนินอย่างไร
ตอบได้เลยเป็น จิตร ภูมิศักดิ์
ตอบได้เลยเป็น “อินทรายุธ” เป็น อุดม สีสุวรรณ เป็น กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็น อิศรา อมันตกุล
นั่นเป็นเรื่องของ “ยุคสมัย”
เป็นยุคสมัยที่ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เพิ่งกลับจากคอร์แนล เป็นยุคสมัยที่ ขรรค์ชัย บุนปาน ทำงานอยู่
“ไทยรัฐ”
และ สุจิตต์ วงษ์เทศ เขียน “เจ้าขุนทอง” จาก “บ้านช่างหล่อ”
“ปฏิมา” ของคนรุ่น 14 ตุลาคม จึงอิงแอบอยู่กับภาพของ จิตร ภูมิศักดิ์ แนบแน่นพร้อมกับ “โฉมหน้าศักดินาไทย”
“ดาวศรัทธา” จึง “เรืองรอง” อยู่ในหัวใจ
คำถามก็คือ การสำแดงออก ของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ผ่านการทบทวนความรู้สึกต่อการดำรงอยู่ของ “นครวัด” คืออะไร
คือ ปฏิบัติการ 1 ในทาง “ความคิด”
เหมือนกับเป็นการ “พักร้อน” ในห้วงที่ตกอยู่ในบรรยากาศแห่งการคาดโทษผ่านกำไล “อีเอ็ม”
เช่นเดียวกับ จิตร ภูมิศักดิ์ สวมบท “กวีการเมือง”
คำถามก็คือ การผูกโยงระหว่าง พริษฐ์ ชิวารักษ์ ไปยังภาพของ สุจิตต์ วงษ์เทศ สะท้อนนัยยะอะไร
คำตอบอยู่ที่ลักษณะของ “สายธาร” แห่ง “ประวัติศาสตร์”
เป็นประวัติศาสตร์จากการดำรงอยู่ของ “นครวัด” ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ของเยาวรุ่น รุ่นใหม่อย่าง พริษฐ์ ชิวารักษ์
โยงจากยุค จิตร ภูมิศักดิ์ ผ่าน สุจิตต์ วงษ์เทศ
ชะตากรรมของ จิตร ภูมิศักดิ์ จึงจำหลักหนักแน่น การทำงานอย่างต่อเนื่องของ สุจิตต์ วงษ์เทศ จุดประกายขึ้นมา
ไม่ว่าผ่าน “บทความ” ไม่ว่าผ่าน “ทอดน่อง”
เชื่อมร้อย “สายธาร” ในทางความคิด ไหลต่อกันมาอย่างเป็นกระบวนกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่
“อนาคต” รุ่งโรจน์ บน “เส้นทาง” อันซับซ้อน