การไม่ ‘เรียนรู้’ บทเรียน 14 พฤษภาคม ย้ำ ซ้ำรอยเดิม

คอลัมน์หน้า 3 : การไม่ ‘เรียนรู้’ บทเรียน 14 พฤษภาคม ย้ำ ซ้ำรอยเดิม

ไม่ว่า ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต แห่งนิด้า ไม่ว่า ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล แห่งธรรมศาสตร์ ต่อ “การเลือกตั้ง”

ล้วน “ตะลึง” ล้วน “ช็อก”

ไม่มีใครเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะได้ทะลุหลัก 100 ไม่มีใครเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคอันดับ 2

เนื่องจาก “กำชัย” มาอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

นับแต่การเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 การเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 การเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 การเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554

แม้กระทั่งการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562

เป็นไปได้อย่างไรที่พรรคก้าวไกลเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย เหนือกว่าพรรคภูมิใจไทย เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

Advertisement

ทำไม

บทสรุปจากความจัดเจนของสื่ออาวุโสระดับ นายสุทธิชัย หยุ่น บทสรุปจากนักการเมืองระดับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง

นี่คือ การ “ดิสรัปต์” ครั้งใหญ่หลวงของการเมืองไทย

แม้ว่าจะยังไม่เชื่อแต่ก็เกิดการไหวตัวอย่างรวดเร็วจาก “หน้าใหม่” อย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน

มีข้อเสนอให้ “เพื่อไทย” เร่ง “ปรับตัว”

การเดินทางไปเยี่ยมเยียน โทนี่ วู้ดซัม ที่สิงคโปร์อย่างฉับพลันทันใดมิได้มีรากฐานมาจากความคิดถึงอย่างเดียว

หากแต่อยู่ที่การกระตุก “เตือน” อย่างนิ่มนวล

นี่ย่อมประสานไปกับข้อเรียกร้องให้บรรดา “อาวุโส” ภายในพรรคเพื่อไทยยอมรับความเป็นจริง แล้วถอยออกจาก “แนวหน้า”

เปิดทางให้กับ “รุ่นใหม่” เข้ามา “รับมือ”

ความจริง สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงได้เริ่มส่งให้เห็นตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาแล้ว

จาก 6.3 ล้านเสียง จาก 81 ส.ส.

แต่ดูเหมือนบรรดา “นักจัดเจน” ทางการเมืองทั้งหลายจะยังไม่เชื่อ และมีความมั่นใจว่าการยุบพรรคในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จะเป็น “ไม้เด็ด”

และมองข้ามปรากฏการณ์ “แฟลชม็อบ” จากปี 2563 ถึงปี 2564

แต่ก็อีกนั่นแหละ มีความมั่นใจว่าการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะกำราบให้ “พลัง” เหล่านั้นสยบยอม

บรรดา “นักวิเคราะห์” ทั้งหลายจึงยังอยู่กับ “ความจัดเจน” เก่า

ใช้ “ฐานข้อมูล” เดิมจากเมื่อเดือนมกราคม 2544 ยังมีความมั่นใจในระบบ “หัวคะแนน” และความแข็งแกร่งจากพลัง “บ้านใหญ่”

จึงต้อง “ช็อก” กันถ้วนหน้าในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

น่าเศร้าก็ตรงที่ความเป็นจริงจากการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม ได้พลิกสถานการณ์อย่างชนิดรุนแรง ไม่เคยมีมาก่อน

แต่ “มาตรการ” กำราบปราบปรามก็ไม่ได้ “เปลี่ยน”

ยังคงใช้ความจัดเจนจากที่เมื่อใช้กับ นายทักษิณ ชินวัตร ยังคงใช้ความจัดเจนที่เมื่อใช้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

มาตรการ “เดิม” ผลก็ยังย้ำรอย “เดิม” 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image