ขวากหนาม ปรากฏ เบื้องหน้า เศรษฐา ทวีสิน ก่อนถึง ‘วันโหวต’

คอลัมน์หน้า 3 : ขวากหนาม ปรากฏ เบื้องหน้า เศรษฐา ทวีสิน ก่อนถึง ‘วันโหวต’

ภายในความราบรื่น ณ เบื้องหน้า การจัดตั้ง “รัฐบาลพิเศษ” ของพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มสะดุดขึ้นมาโดยกะทันหัน

ในช่วง “โค้งสุดท้าย” ก่อน “การโหวต”

แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ว่าน้ำเสียงจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าน้ำเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ สดใสไพเราะยิ่ง

Advertisement

นั่นก็คือ ไม่มีเงื่อนไข นั่นก็คือ แล้วแต่พรรคเพื่อไทย

แต่เมื่อกำหนดวันในการโหวตเลือก “นายกรัฐมนตรี” มีความแจ่มชัดว่าจะเป็นวันที่ 22 สิงหาคม ก็เริ่มเกิด “การขยับ” ขับเคลื่อน

อาจมิได้มาจากพรรคพลังประชารัฐ อาจมิได้มาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ

Advertisement

แต่น้ำเสียงของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย น้ำเสียงของ นายวราวุธ ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องการความชัดเจน

ชัดเจนใน “ตำแหน่ง” ก่อนถึง “การโหวต”

น่าสังเกตว่ากระบวนท่าอันมาจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล และประสานเข้ากับ นายวราวุธ ศิลปอาชา ไม่อ้อมค้อม ไม่วกวน

ต่างไปจากที่ได้ยินจาก นายไผ่ ลิกค์

ต่างไปจากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นำเอาถ้อยความของ นายอนุชา นาคาศัย และ นายธนกร วังบุญคงชนะ

ต้องการให้ชัดเจนในเรื่อง “กระทรวง” เรื่อง “โควต้า”

หลักการจาก นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ว่าไม่อยากให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งเดิม กระทรวงเดิมที่เคยยึดครองมาแล้ว

ถูก “แย้ง” ขึ้นมาอย่าง “นิ่มนวล” อ่อนหวาน

นั่นหมายความว่าพรรคภูมิใจไทยต้องการกระทรวงเดิม นั่นหมายความว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องการกระทรวงเดิม

ยัง “พลังประชารัฐ” เล่า ยัง “รวมไทยสร้างชาติ” เล่า

ต้องยอมรับว่า “กระบวนท่า” อันมาจากพรรคภูมิใจไทย อันมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา คุ้นๆ เป็นอย่างยิ่ง

เหมือนที่ “เพื่อไทย” เคยใช้กับ “ก้าวไกล”

กรณีตัวอย่างอันน่าศึกษา คือ กรณีการช่วงชิงตำแหน่ง “ประธานสภา” ไม่ให้ตกอยู่ในมือของพรรคก้าวไกลตามที่มาดหมาย

เริ่มจากส่ง “แนวหน้า” มาเป็น “หน่วยทะลวง”

ไม่ว่าจะเป็น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ตามมาด้วย นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ และ นายสมคิด เชื้อคง

ขณะเดียวกัน ก็เลือกวันดีเดย์ใน “โค้งสุดท้าย”

กระบวนท่าของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ต่างจากของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ต่างจากของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

จึงเป็น “ข้อเสนอ” อันยากยิ่งในการ “ปฏิเสธ”

ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เคยมองว่าหนทางในการ “ก้าวข้าม” ความขัดแย้ง เพื่อนำไปสู่ “รัฐบาลพิเศษ”

ราบรื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา

นั่นก็คือ ทุกฝ่ายยอมรับว่า “โหวต” ตั้ง “นายกรัฐมนตรี” ก่อน แล้วจึงค่อยมาตกลงกันในเรื่อง “กระทรวง” ในเรื่อง “ตำแหน่ง” อาจไม่เป็นไปตามนั้น

ทุกอย่างยืนยัน “การเกิด” ย่อมต้องผ่าน “ความเจ็บปวด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image