เครื่องมือ สื่อสาร จากยุค เฉลิม อยู่บำรุง หมด ความจำเป็น

“ปฏิกิริยา” ในทางการเมืองอันมาจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กำลังได้รับการตอบผ่านกระบวนการ
ที่ไม่มีการตอบ

ไม่ว่าจะจาก “บางบอน” ไม่ว่าจะจาก “เพื่อไทย”

พลันที่ความพยายามในการ “สำนอง” ไม่ว่าจะมาจาก นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่าจะมาจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย

ถูก “ปฏิเสธ” จาก “บางบอน”อย่างเย็นชา

Advertisement

รูปประโยคอันมีนัยสำคัญอย่างล้ำลึกบ่งบอกว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องการติดต่อกับใคร และไม่ต้องการติดต่อกับใคร

เท่ากับเป็นประตูหรือ “ทางออก”ที่ถูกปิด

และเมื่อไม่มีสัญญาณใดๆ จาก “ชั้น 14” ของโรงพยาบาล และเมื่อไม่มีสัญญาณใดๆ จาก “บ้านจันทร์สองหล้า”

Advertisement

นั่นเท่ากับเครื่องมือในการสื่อสาร ไม่มีประสิทธิภาพ

จะเข้าใจต่อ “ปฏิกิริยา” จะเข้าใจต่อ “ปัญหา” อันปะทุขึ้นอย่างร้อนแรงนี้ได้จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของ “เครื่องมือ”

อะไรคือ “เครื่องมือ” ของ “บ้านบางบอน”

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นเครื่องมือ “เดิม” ภายใต้ความสัมพันธ์ในแบบพรรคไทยรักไทย ในแบบพรรคพลังประชาชน ในแบบพรรคเพื่อไทย

เมื่ออยู่ในห้วงหลังเดือนพฤษภาคม 2566 ก็ติดขัด

จึงจำเป็นต้องศึกษา “กระบวนท่า”ทางการเมืองในยุคก่อนการเลือกตั้งและภายหลังการเลือกตั้งอย่างเริ่มต้นจากความเป็นจริง

ความเป็นจริงของ “เพื่อไทย”ความเป็นจริงของ “สังคมไทย”

ถามว่าบทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นอย่างไร ถามว่าผลของการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมเป็นอย่างไร

ตรงนี้ต่างหากคือ “ปม” ตรงนี้ต่างหากจะเป็น “คำตอบ”

คําตอบ 1 ก็คือ บทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มีน้อยอย่างยิ่งในห้วงก่อนและภายหลังการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566

1 เครื่องมือในการ “สื่อสาร” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่มีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าเมื่อออกมา “แถลง” อย่างมีการเชื่อมโยงกับ “บริวาร” และ“เครือข่าย” ของตนที่ยังเหลืออยู่ภายในพรรคเพื่อไทย

เป็นบริวารและเครือข่ายจากยุค “พรรคมวลชน”

ในยุคแห่งการปรับเปลี่ยนวาทกรรมจาก “การปฏิรูป” มาเป็น “การพัฒนา”จึงต้องตระหนักว่า “เครื่องมือ” ในแบบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มีประสิทธิภาพหรือไม่

คำตอบอยู่ที่บทสรุปอันเนื่องแต่สำนวน “กวนโอ๊ย”

คำตอบอยู่ที่ “ความนิ่ง” กำลังกลายเป็น “คำตอบ” และอธิบายได้เป็นอย่างดีถึงแนวโน้มและความเป็นจริงในอนาคตอันใกล้

ไม่ว่าต่อ “รัฐบาล” ไม่ว่าต่อ“เพื่อไทย”

เครื่องมือ “เดิม” อย่างที่เคยใช้กันในยุคพรรคไทยรักไทย ในยุคพรรคพลังประชาชน หรือในยุคก่อนหน้า
ของพรรคเพื่อไทย

น่าจะ “ล้าสมัย” น่าจะ “เอาต์” ในทางการเมือง

สัญญาณนี้บ่งชี้อย่างเด่นชัดว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยน “ภายใน” พรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้พ้น

ที่ “เอาต์” ก็ต้องหมดบทบาท และถูกตัดไปจาก “สมการ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image