| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คําถามทางการเมืองวันนี้
ไม่ใช่อยู่ที่มีการเลือกตั้งหรือไม่
แต่อยู่ที่เลือกตั้ง “เมื่อไหร่และอย่างไร” มากกว่า
หลักฐานที่ยืนยันสมมุติฐานนั้นชัดเจนยิ่ง
หลักฐานที่ว่าคือการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มสามมิตร”
เปิดตัวอย่างครึกโครมด้วยการเดินสายออกพบปะนักการเมืองในจังหวัดต่างๆ
แกนนำของกลุ่มอย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ได้ปฏิเสธหรือบอกปัดความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับ “พันธมิตรเก่า” อย่าง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
มิหนำยัง “เปิดถ้วยแทง” ด้วยการประกาศอย่างเปิดเผยว่านี่คือการรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
ออกตัวแรง เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ผิดกับการเคลื่อนไหวของนักและพรรคการเมืองอื่น
ข้อครหาว่าเป็น “เด็กทหาร” ย่อมตามมา
เดือดร้อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ต้องออกมาตอบโต้ข่าวเรื่อง คสช.ลำเอียงเข้าข้างกลุ่มสามมิตร ว่า
กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวพบปะกลุ่มการเมือง แล้วพรรคการเมืองอื่นๆ ที่นัดไปตีกอล์ฟ ไปคุยกัน ไม่เห็นว่าอะไรเลย
ทำไมไม่โจมตีกัน และทำไมถึงไม่บอกว่าไปดูด ส.ส.บ้าง
“ผมลำเอียงเรื่องอะไร ผมไม่รู้จักนายสุริยะ ส่วนที่เขารู้จักผมก็รู้จักไป
“ส่วนที่มีชื่อนายสมคิดรวมในกลุ่มสามมิตรนั้น คงไม่ใช่ ผมยังไม่เคยเจอเขาเลย
“ที่บอกกลุ่มสามมิตรอยู่พรรคพลังประชารัฐ พรรคเกิดหรือยัง”
และเดือดร้อน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องให้ความเห็นเรื่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร
ในการเดินสายพูดคุยทาบทามนักการเมืองร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย ว่า
ไม่ทราบ เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาติดตามนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส
จากนั้นก็มีภารกิจต่อ และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อคืนวันที่ 1 ก.ค. ยังงงๆ อยู่เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำกลุ่มสามมิตรระบุมีการติดต่อการเมืองผ่านทางนายสมคิด
นายสมคิดกล่าวตอบว่า พวกนี้เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น พรรคการเมืองส่วนใหญ่ก็รู้จักกันหมด
ส่วนการประกาศรวมตัวเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย เป็นการตัดสินใจของแต่ละคน
ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ต่างก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
ถึง “ขาใหญ่” ในรัฐบาล 2 ราย จะออกมา “แบ่งรับแบ่งสู้”
แต่ยิ่งนาน ความเคลื่อนไหวในนามกลุ่มสามมิตรยิ่งแหลมคม
นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ในฐานะเลขาฯกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า
ขณะนี้กลุ่มยังไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องผู้บริหารพรรค เพราะมองว่าจะแพ้หรือชนะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้บริหารพรรค แต่ขึ้นอยู่กับการตอบรับในนโยบายจากพี่น้องประชาชน
ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร เดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วหรือไม่ หากกลับมาแล้วก็จะหารือถึงแนวทางของกลุ่มต่อไป
เมื่อถามว่า แนวนโยบายหลักของกลุ่มพลังประชารัฐคือการแก้ไขความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำใช่หรือไม่
นายภิรมย์กล่าวว่า
“ใช่ เป็นแนวนโยบายที่เรามั่นใจว่าชนะพรรคเพื่อไทยแน่นอน
“เช่น ยกเลิกห้องวีไอพีในโรงพยาบาล
“ผมเปิดประเด็นนี้ไปปรากฏว่า คนจนประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์เขาชอบ”
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้งดำเนินคดีและตรวจสอบกลุ่มสามมิตร
นายภิรมย์กล่าวว่า ไม่ใช่คนที่พรรคเพื่อไทยต้องการเอาผิด
ตอนนี้พลังประชารัฐก็เป็นแค่กลุ่ม ยังไม่เป็นพรรค
และมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายด้วย
มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
มั่นใจว่าจะชนะพรรคใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
แล้วการเลือกตั้งจะอยู่ไกลได้อย่างไร
