นพ.วิชัย เทียนถาวร : วันแม่

“วันแม่แห่งชาติ” ณ วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญของชาติไทยเรา อันเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะรำลึกถึงพระองค์ท่านและให้ความสำคัญยิ่งที่สุดในวโรกาสอันเป็นมงคล ซึ่งวันอาทิตย์นี้ 12 สิงหาคม พ.ศ.2561 ตรงกับ “วันแม่แห่งชาติ” พอดี จึงขออันเชิญคำขวัญพระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ของปวงชนชาวไทยได้รำลึกและตระหนักในความเป็น “แม่” ที่มีความสำคัญยิ่งในทุกบทบาทที่ห่วงใยลูกๆ และลูกๆ ควรต้องพึงปฏิบัติต่อ “คุณพ่อคุณแม่” ด้วยแรงกตัญญูกตเวทิตาต่อ… “ครอบครัว” ของเราทุกครอบครัวในประเทศไทย ความว่า :

        พระองค์แรกผู้แสนดีให้ชีวิต
ครูคนแรกผู้ประสิทธิ์การศึกษา
หมอคนแรกผู้ถือช้อนคอยป้อนยา
รวมคุณค่านี้ได้แก่แม่เราเอง
        แม่คือพระประจำใจอยู่ในบ้าน
บูชาท่านไว้เถิดเกินรำพัน
พระคุณแม่เลิศล้ำเกินรำพัน
แม่จึงเป็นคนสำคัญทุกวันไป
        ให้ของขวัญวันแม่นับแต่นี้
โดยทำดีต่อพ่อแม่ก่อนแก่เฒ่า
ให้ท่านได้ประจักษ์รักของเรา
ดีกว่าเฝ้าทำบุญให้เมื่อวายชนม์

“คุณแม่” ทุกคนที่มี “ครอบครัว” ประกอบด้วย… “คุณพ่อ” และมีสายใยแห่งชีวิตเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของสถาบันย่อยๆ หน่วยเล็กที่สุดของสังคมคือ “บุตร” จะเป็น “ชาย” ก็ดี “หญิง” ก็ดี ท่านจะเป็น “ต้นแบบ” จักเป็นประทีปส่องทางชีวิตและเข็มทิศบอกทางให้แก่ “ลูก”…สายเลือด สายใยชีวิต อันเป็นที่รักของ “แม่” และ “พ่อ” ความว่า…

ในชีวิตของแม่ นับตั้งแต่แม่ได้ให้กำเนิดลูกจนมาถึงบัดนี้ ลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ พ่อและแม่ตั้งใจและมุ่งมั่นในการอบรมเลี้ยงดูลูกเป็นสำคัญ ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้น แม่มิได้หวังสิ่งอื่นใดเป็นการตอบแทน สิ่งตอบแทนแก่พ่อแม่นั้นเชื่อว่าเพราะการกระทำของพ่อและแม่เองก็พยายามตั้งใจเลี้ยงลูกให้มีความสุขความเจริญ แม่จึงมีความภูมิใจอยู่ลึกๆ ที่ลูกของแม่เป็น “คนดี” มีความรู้และความประพฤติดี มีความสามารถพึ่งตนเองได้และช่วยเหลือสังคมได้ อันจะเป็นความงามและความดีของลูกเอง

Advertisement

        คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า
คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
คนจะรวย รวยศีลธรรม ใช่บ้านโต

คนจะงาม…ก็มิใช่จะงามเพราะร่างกาย งามเฉพาะการแต่งกาย แต่ต้องงามทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งจิตใจ จึงจะงามแท้งามจริง

คนจะสวย…ก็มิใช่สวยเฉพาะความสวยทางร่างกาย แต่จะต้องสวยทั้งกาย สวยวาจา และสวยใจ

Advertisement

คนจะแก่…ก็มิใช่จะแก่เพราะร่างกาย แต่จะต้อง…แก่ความรู้ ความสามารถ และแก่คุณธรรมถึงจะถือว่าแก่ดี

คนจะรวย…ก็มิใช่รวยเฉพาะทรัพย์สมบัติ รวยเงินทอง รวยยศถาบรรดาศักดิ์ แต่คนรวยแท้จริงนั้น…จะต้องรวยทั้งนอกและทั้งใน คือ…ทั้งทรัพย์ภายนอก และทรัพย์ภายใน อันได้แก่ การให้ทานรักษาศีล และเจริญภาวนา

ลูกของแม่…เป็นคนที่มีความรู้ดีและความประพฤติดี เพราะฉะนั้น…ลูกต้องมีความงามแท้จริง ลูกต้องมีความรวยแท้จริง ลูกต้องมีคุณธรรมแท้จริง และลูกต้องรวยศีล รวยทานอย่างแท้จริง อันจะนำความสุขความเจริญมาถึงลูก ครอบครัว และบริวารของลูก รวมทั้งเพื่อนมนุษย์อย่างแน่นอน

หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุให้โอวาทว่า…ทุกชีวิตเกิดมาต้องมีพ่อมีแม่ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ จึงต้องเกิดมาจากพ่อแม่ มิได้เกิดมาจากโพรงไม้ พระคุณของพ่อแม่จึงมีพระคุณมากมาย สุดจะพรรณนาพระคุณไม่หมด ดังบทกลอนภาษิตโบราณว่า…

     จะเอาโลกมาทำปากกา
และเอานภามาแทนกระดาษ
เอาน้ำหมึกมหาสมุทรแทนหมึกวาด
ประกาศพระคุณไม่พอ

สิ่งใดที่จะเป็นการก้าวหน้าของลูก มีหรือพ่อแม่จะขัดขวาง สิ่งใดที่เป็นความเจริญของลูก…มีหรือพ่อแม่จะกีดกัน สิ่งใดเป็นความสุขของลูก…มีหรือพ่อแม่จะขัดเคือง สิ่งใดที่ลูกขอ…สิ่งใดที่ลูกรอ…สิ่งใดที่ลูกอยากได้ ทุกสิ่งนั้น…พ่อแม่อยากหาให้ลูกทุกประการ แต่ถ้าสิ่งใดเป็นทางเสื่อมของลูก…พ่อแม่ต้องป้องกันทุกวิถีทาง สิ่งใดที่เป็นทางตกต่ำของลูก…พ่อแม่ต้องหยุดยั้งตลอดเวลา สิ่งใดเป็นความทุกข์ของลูก…พ่อแม่ต้องปัดเป่าให้ความทุกข์นั้นหายไป สิ่งใดที่จะทำให้ลูกเสียคน…พ่อแม่จะไม่ยอมเป็นอันขาด

ลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ พ่อแม่เหนื่อยยากลำบาก…ก็เพื่อลูกเป็นสำคัญ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ… “ความรักลูก” มิได้หวังสิ่งอื่นใด ความรักของพ่อแม่ไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้ ไม่ว่าลูกจะเป็นเช่นใด จะดีจะร้าย… “พ่อแม่ก็รักลูกเสมอ”

“ลูก” เป็นสมบัติของพ่อแม่ มีค่ามากที่สุด พ่อแม่ก็อยากมีความภาคภูมิใจที่พ่อแม่ก็เลี้ยงลูกเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขได้ไม่แพ้พ่อแม่คนอื่นอีกหลายคน ลูกจึงเป็น “ตัวแทน” ของพ่อแม่ ถ้าลูกดี…เขาก็ชมถึงพ่อแม่ ถ้าลูกไม่ดี…เขาก็ว่าถึงพ่อแม่ เช่นกัน

แม่เคยได้ยินคนโบราณบอกกล่าวไว้ว่า : เลี้ยงลูกให้สบาย…ระวังจะเป็นการทำลายลูก เลี้ยงลูกให้ถูก…ต้องเลี้ยงให้ทำงาน…ตามหน้าที่ พ่อแม่บางคนต้องการความรักจากลูก ก็คอยแต่เอาอกเอาใจ ลูกอยากได้อะไร…ก็ตามใจเสียหมด เมื่อพ่อแม่ไม่มีให้…ลูกก็จะเสียคน โบราณว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี”

คำพระท่านสอนไว้ว่า : น้ำบ่อ น้ำคลอง ยังเป็นรองน้ำใจ แม่น้ำใหญ่เพียงใด ก็ยังสู้น้ำใจ…ไม่ได้ เพราะฉะนั้น…น้ำใจเป็นสิ่งที่ควรหาให้กัน น้ำใจให้ไปแล้วไม่หวังสิ่งตอบแทน น้ำใจ…เกิดขึ้นกับผู้ใดก็มีแต่คนรัก น้ำใจ…เป็นสิ่งที่ให้กันได้โดยไม่มีการบังคับ เพราะฉะนั้น…ลูกก็จงมีน้ำใจให้แก่ทุกคน แต่ผู้เขียนเชื่อว่า น้ำใจอันบริสุทธิ์ สดใส ยิ่งใหญ่อันหาที่สุดมิได้ คือน้ำใจของพ่อแม่

ชีวิตเป็นอยู่ดีขณะนี้ เพราะพ่อแม่…เป็นผู้เลี้ยงดู ให้การศึกษา ให้การงาน ให้แบบอย่างในการทำงาน จึงขอให้ลูกทั้งหลายเดินตามพ่อและแม่ในทางที่ท่านสร้างไว้ดีแล้ว

หลวงพ่อปัญญา นันทะ สอนไว้ว่า… “จงเดินตามรอยเท้าของพ่อ เพราะทางที่พ่อเดิน…ท่านเดินมาแล้ว ท่านถางทางไว้ให้เป็นทางที่โล่งและเตียน จงอย่าเดินนอกทางของพ่อ เพราะเป็นทางที่ต้องสร้างขึ้นใหม่ ลำบากแค่ไหน…ก็ไม่รู้

• หน้าที่ของพ่อแม่คือเลี้ยงดูให้เป็น “คนดี” ตามใจในสิ่งที่ไม่เกินเลย ให้ในสิ่งที่ดี ไม่มีพิษไม่มีโทษ สรุปก็คือ… เลี้ยงลูกให้ดี หน้าที่ของลูกก็เช่นกัน…เลี้ยงพ่อแม่ให้ดี นี่คือหน้าที่ของพ่อ แม่ และลูก พ่อและแม่ตามใจลูกมาตลอด ลูกทั้งหลาย…เมื่อถึงเวลาอันควรลูกก็ต้องตามใจพ่อแม่เช่นกัน พ่อแม่ให้สิ่งที่ดีๆ แก่ลูก ลูกก็ควรให้สิ่งที่ดีๆ แก่พ่อแม่ นี่คือ… “การทำหน้าที่ของมนุษย์”

• ลูกไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่เท่านั้น แต่เป็นสมบัติของชาติ เด็กเปรียบเสมือนยอดไม้ ต้นไม้เปรียบเสมือนครอบครัว-ประเทศชาติ ต้นไม้ใดยอดหายไป ต้นไม้นั้นย่อมตายไปในที่สุด ขอให้พวกเราให้ความสำคัญแก่ “เด็ก” จะให้การศึกษา…ให้ประสบการณ์แก่เขา เพื่อที่จักได้เขาเป็นพลังของชาติไทย…ต่อไปในอนาคต

• ชีวิตนี้…ถ้าเราไม่ต้องการให้ใครมากำหนดชีวิตเรา เราต้องมี “ธรรมะ” เพื่อกำหนดชีวิตตนเอง จงหาความสุข…ด้วยปัญญา อย่าหาความสุข…ด้วยปัญหา คือใช้อ่อนน้อมแก้ความรุนแรง ความพอเพียงแก้ความโลภ ความกตัญญูแก้ความใคร่ ความมีสัจจะแก้การพูดเท็จ ความมีสติแก้ความเสพสิ่งเสพติด

• “ธรรมะ”…เป็นสิ่งที่ทันสมัยที่สุดตลอดกาล มนุษย์สรรหาเทคโนโลยีที่เร็วที่สุดไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ หรือความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้เร็วแค่ไหน?…ก็ยังแพ้ “จิต” เป็นตัวแอนตี้ไวรัส คือที่เก็บข้อมูลความจำ…ถ้าเราไม่ต้องการข้อมูลนี้…เราก็ล้างเครื่องใหม่

• ใน “ธรรมะ” ทั้งปวง “ความซื่อสัตย์” เป็นสมบัติของคนดี ไม่เพียงเท่านั้น ความซื่อสัตย์ยังเป็นสมบัติของสุขด้วย ถ้าสุนัขไม่มีความซื่อสัตย์ สุนัขจักไม่มีค่าใดได้เลย ควายยังมีหนัง ช้างยังมีงา ทำประโยชน์ได้ หมูยังมีเนื้อ วัวยังมีนม แต่ “หมา” ไม่มีอะไรเลย…มีแต่ความ “ซื่อสัตย์” เท่านั้น “คน” ก็เช่นกัน…ระวังจักอายหมา…นะ

• คนเราตั้งแต่เกิดมาจนตาย เราต้องมีการบริหารไปจนตลอดชีวิต เริ่มตั้งแต่บริหารชีวิตร่างกาย บริหารการเรียนการศึกษา บริหารการทำงาน การเงิน บริหารเวลากับครอบครัว แม้กระทั่งบริหาร “ตนเอง” และ “ความตาย” ที่จักมาถึงสักวันหนึ่งเมื่อใดไม่รู้เพื่อให้ระลึกถึง “ความตาย” ทุกวันทุกนาทีทุกวินาทีเพราะ…ถามว่า…วันนี้…คุณคิดถึงความตายไว้บ้างหรือยัง? ขอให้ระลึกรู้สึกในทุกลมหายใจเข้าและออก จงมีสติ สมาธิตลอดเวลา

• การทำงานที่เรากำลังทำอยู่นี้ : งานบางชนิดต้องทำตามเวลา บางชนิดต้องทำก่อนเวลา บางชนิดต้องรอเวลา เช่นเดียวกับการร้องเพลง เล่นเพลง ที่เขาพูดกันเสมอว่า… “ต้องเล่นไปตามเพลง” เมื่อเพลงเล่นเป็นจังหวะที่ช้า…เราก็ต้องช้า เมื่อเพลงเล่นไปในจังหวะที่เร็ว…เราก็ต้องเร็ว ถ้าเราเล่นตามเพลง ทำงานตามเวลา ความสุขสำคัญก็เบิกบานแก่ตน…แต่ต้อง… “ถูกต้องและถูกธรรม”

• การตอบแทนพระคุณ “บุพการี” เป็นสำนึกของมนุษย์ แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉานก็ยังมีความซื่อสัตย์ ภักดี และกตัญญู อันได้แก่สุนัข ถ้าเราขาดซึ่งความกตัญญู…เราก็คิดว่า “เลวกว่าสุนัข” ดังสุภาษิตที่ว่า… นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา “ความกตัญญูกตเวทิตา เป็นเครื่องหมายของคนดี”

ท้ายสุดนี้ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2561 อันเป็นวันมิ่งมงคลเฉลิมพระชนมายุครบ 86 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์เป็นมิ่งขวัญของชนชาวไทยทุกท่าน พึงระลึกเสมอว่า บิดามารดาเสมือนพระองค์แรกในบ้าน สุขทุกข์ของท่าน…กระทบถึงลูกทุกคนทุกเวลา ถ้าเราดูแลให้ท่านมีความสุขใจ…ลูกจักได้รับความสุขใจด้วย ถ้าลูกทำให้ท่านมีความทุกข์ใจ…กรรมต้องตกแก่ลูกแน่นอน จงเลี้ยงกายและใจท่านให้มีความสุข ความหวังของพ่อแม่ทุกๆ คน… มีดังนี้

        ยามมีกิจ หวังให้เจ้า เฝ้ารับใช้
ยามป่วยไข้ หวังให้เจ้า เฝ้ารักษา
ยามจะตาย ล่วงลับ ดับชีวา
หวังลูกยา ช่วยปิดตา คราสิ้นใจ

ขอให้ทุกท่านสุขกาย สุขใจ ปลอดภัยถ้วนหน้า สมหวัง โชคดี ตลอดไปด้วย ด้วยแรงกตัญญูกตเวทิตาต่อ “คุณพ่อคุณแม่” ยิ่งๆ ขึ้นนะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image