| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
พลันที่เสียงปี่กลองการเลือกตั้งแว่วมา
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ฝุ่นตลบ
นอกเหนือไปจากกรณีเดินสายดูดด้วยพลังประชารัฐ
ไปจนกระทั่งการพันตูเป็นพัลวันระหว่างกลุ่มสามมิตรกับภูมิใจไทย
ไปจนกระทั่งถึงความพยายามที่จะสกัด-ยุบพรรคเพื่อไทย
วันนี้ผู้สนใจการเมืองยังต้องจับจ้องความเป็นไปในพรรคประชาธิปัตย์
ประชาธิปัตย์ที่กำลังจะมีการเปิดให้เลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่
ว่าจะยังเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อไป
หรือจะเป็นบุคคลอื่น
บุคคลอื่นที่ว่า เพียงเปิดหน้ามาแล้วหนึ่งรายคือ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค
ก็กวนน้ำในแก้วประชาธิปัตย์จนตะกอนลอยฟ่อง
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นเห็นพ้องตรงกันจะเปิดให้สมาชิกพรรคทุกคนมีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรคโดยการหยั่งเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนปัญหาว่าจะมีการขนคนสมัครสมาชิกเพื่อป่วนหรือยึดพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าทำไม่ง่าย เพราะการสมัครสมาชิกต้องแสดงตัวและทางพรรคก็ต้องตรวจสอบ
“หากพรรคอื่นส่งคนเข้ามาสมัครสมาชิกประชาธิปัตย์จริง ผมว่าทำให้พรรคตัวเองก่อนจะดีกว่าหรือไม่”
เมื่อถามว่า นายอลงกรณ์ อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตรองหัวหน้าพรรค ประกาศลงชิงตำแหน่ง ถือเป็นคนในหรือคนนอก
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อพ้นจากสมาชิกภาพสมาชิกพรรคไปแล้ว ก็ต้องถือว่าไม่มีคุณสมบัติ
แต่ถ้าอยากจะกลับเข้ามาได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องใช้เกณฑ์ที่เข้มกว่า
ขณะที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป.กล่าวว่า มีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจใน คสช.จริง
โดยจะส่งนอมินีเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทนนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน
ด้วยสาเหตุสำคัญคือนายอภิสิทธิ์เป็นอุปสรรคในการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
แต่ คสช.คิดผิดที่เชื่อว่าหากทำให้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้วการสืบทอดอำนาจจะง่ายขึ้น
เพราะลืมไปว่านอกจากนายอภิสิทธิ์แล้ว ยังมี นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และคนอื่นๆ ที่ล้วนแต่มีจุดยืนเดียวกัน
“พรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้แข่งขันทุกคน บางคนอย่าว่าแต่เป็นหัวหน้าพรรคเลย เป็นภารโรงพรรคก็ยังไม่ได้
“บางคนเชลียร์คณะรัฐประหาร คสช.อย่างน่าเกลียด แล้วยังมีหน้าจะมาขอเป็นหัวหน้าพรรคอีก
“บางคนถึงขนาดต้องลาออกจากพรรค ด่าพรรค ไปเอาตำแหน่งจาก คสช.
“แล้วจะขอกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหน้าตาเฉย”
ใส่กันแรงขนาดนี้
ขณะที่นายอลงกรณ์กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ถ้านายวัชระหมายถึงตน ต้องยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ไม่มี คสช.หรือทหารคนไหนมาเกี่ยวข้อง มีแต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ที่ทาบทาม แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ
และระหว่างเป็น สปช.ก็ลงมติสำคัญๆ สวนทางกับ คสช. จนไม่คิดว่าจะได้เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ช่วงเป็น สปช. และรองประธาน สปท.เกือบ 3 ปี ก็ไม่เคยไปพบไปหา คสช.ที่บ้านหรือในค่ายทหารแม้แต่ครั้งเดียว
ที่นายอภิสิทธิ์จะเปิดกว้างให้สมาชิกมีส่วนร่วมเลือกหัวหน้าพรรคแบบไพรมารีถือว่าเดินมาถูกทาง
แต่อยากฝากว่า จะปฏิรูปพรรคต้องเปิดใจกว้าง อย่าให้ลูกพรรคดิสเครดิต ทำลายชื่อเสียง
กีดกันกันตั้งแต่ไก่โห่แบบนี้
สงครามน้ำลายยังกระจายออกไปนอกพรรค
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวกรณีที่นายวัชระระบุว่า คสช.ส่งนายอลงกรณ์มาชิงหัวหน้าพรรค เพื่อไปเป็นพรรคในสังกัด เนื่องจากนายอลงกรณ์สนิทสนมกับทหารใน คสช. ว่านายอลงกรณ์อยู่ตรงไหนใน คสช. และสนิทกับทหารคนไหน ตนไม่รู้
เป็นเรื่องของพรรคการเมือง เขาจะเอาใครก็ว่ากันไป
ถ้าการเมืองไทยจะมีสภาพคล้าย “สามก๊ก” อย่างที่นายอภิสิทธิ์วิเคราะห์เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้
วันนี้ทุกก๊กล้วนแล้วแต่มีปัญหาภายใน
รวมถึงก๊กประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์เอง
