สร้างโลกด้วยการศึกษา : สร้างศรัทธาด้วยคุณธรรม

ความเจริญก้าวหน้าของโลกปัจจุบันนี้ล้วนเป็นผลรวมของการพัฒนาจากการศึกษาทั้งสิ้น การศึกษาจะเป็นฐานรากที่ดีในการพัฒนาในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โลกปัจจุบัน ประเทศทั้งหลายต่างให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในรัฐชาติโดยผ่านกระบวนการจัดการศึกษา การดำเนินการและการจัดการทางการศึกษาในทุกๆ ระบบต่างเป็นหลักประกันเพื่อก่อให้เกิดการใฝ่รู้หรือเป็นหาแนวทางในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ฉะนั้น จิตสำนึกในการศึกษาเพื่อพัฒนาที่จะเพิ่มคุณค่าวิถีชีวิตของผู้คนในทุกๆ จำเป็นต้องให้การศึกษาที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยทั่วไปแล้วประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีจุดมุ่งหมายทางศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หรือคนในชาตินั้นให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเป็นสำคัญ ในขณะที่ประเทศที่กำลังพัฒนานั้น รัฐบาลหรือการจัดการศึกษาจะมุ่งผลิตกำลังแรงงานของรัฐชาติ (Man Power)

ส่วนประเทศที่ด้อยพัฒนาทั้งหลายนั้น รัฐบาลหรือนโยบายในการพัฒนาประเทศนั้น คือ การพัฒนาความเข้าใจในเสถียรภาพทางด้านการเมืองมาเป็นอันดับต้นๆ แต่โดยภาพรวม การศึกษาเพื่อการสร้างโลก คือ การพัฒนาโลกให้น่าอยู่ในทุกๆ มิติ

กระบวนทัศน์ทางการศึกษา : สายรากความรู้ที่สร้างโลก

โดยทั่วไปแล้ว สายรากของความรู้ที่นักการศึกษาได้แบ่งข้อความรู้นั้น จะมีสองประเภท คือ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์เท่านั้น สายรากของความรู้ต่างๆ นั้นล้วนเป็นลักษณะ “การผลิต” บุคลิกทั่วไปของคนในชาติ (Generality of Personality) หรือลักษณะตัวตน/ลักษณะเฉพาะ (Identity/Specification) ที่รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้อง “กระทำสำแดง” ให้สอดคล้องกับปริบทของสังคมเป็นหลัก ผู้เขียนขอแบ่งกระบวนทัศน์และสายรากความรู้ที่สร้างโลกออกเป็นยุค ดังนี้

Advertisement

1.สายรากความรู้ในยุคเริ่มแรก ยุคนี้สายรากความรู้ส่วนมากเกิดจากข้อสงสัยของมนุษยชาติ การสงสัยในการเกิดโลกและปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ฉะนั้นมนุษย์พยายามหาคำตอบโดยการอรรถาธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ และความรู้เชิงพระเจ้า ข้อความรู้ที่ปรากฏส่วนใหญ่จึงเป็นการ “สมยอม” ในธรรมชาติและพระเจ้า ที่เชื่อว่าธรรมชาติทุกอย่างเกิดจากการ “เนรมิต” ของพระเจ้า

2.สายรากความรู้ในยุคกลางและยุคเริ่มต้นวิทยาศาสตร์ ในยุคนี้ความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ถูกผลิตขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะความรู้ทางมนุษยศาสตร์ (Humanism) ฐานคติความจริงของมนุษย์จึงมีการผนวกรวมกับสุนทรียศาสตร์เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างกายกับจิต และความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสังคมมากยิ่งขึ้น มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์มากมาย สิ่งที่ตามมากลายเป็นตัวแปรที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกๆ ด้านในเวลาต่อมา

3.สายรากความรู้ยุควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือได้ว่าเป็นยุคที่มนุษยชาติมีการค้นพบ มีการผลิต และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่งผลกระทบในทุกๆ มิติของการพัฒนาทั้งทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ปรากฏการณ์ลักษณะหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่งผลให้สังคมชนบทกลายเป็นสังคมเมืองอย่างรวดเร็ว

Advertisement

4.สายรากความรู้ทางด้านข้อมูลข่าวสาร สังคมยุคโลกาภิวัตน์และโลกหลังยุคใหม่ เรียกได้ว่า สังคมโลกมีการปรับปริบทต่างๆ อย่างรวดเร็ว การเรียนรู้เกิดขึ้นโดยผ่านการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ทั้งในสถานศึกษาที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ สังคมมีการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว และมีลักษณะ “สังคมเลียนแบบ (Copied Society)” การลอกเลียนเกิดขึ้นได้ง่ายในทุกๆ ของสังคม ความรู้ถูกแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ความรู้บางชุดเป็น “ความรู้ที่บางเบา” แต่ผู้คนชอบเสพข้อความรู้ต่างๆ โดยปราศจากการไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนนำไปใช้ อนึ่งสายรากความรู้ที่ปรากฏขึ้นนอกจากจะมุ่งเน้นความรู้แบบวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ยังเน้นวิทยาศาสตร์สุขภาพ และมีการนำมาผสมผสานกันกับความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ วาทกรรมที่เกิดขึ้นของทางด้านปรากฏการณ์วิทยาข้อความรู้ คือ สหวิทยการและการผสมผสานศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม สายรากความรู้ที่ปรากฏขึ้นในยุคนี้ ผู้เสพต้องสร้างภูมิคุ้มกันในการปรับใช้และเลือกใช้อย่างมีวิจารณญาณ
จะเห็นได้ว่า สายรากของความรู้ในบริบทที่กล่าวมานั้น ผู้คนในสังคมโลกต่างพยายามที่จะเสาะแสวงหาและนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและสังคมโดยรวม ความรู้บางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเลือกใช้หรือเสพความรู้จึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนถึงจะตกเป็นเหยื่อของความรู้ได้

การศึกษาเพื่อการสร้างโลก

การศึกษาเป็นภาพฉายเชิงสังคมลักษณะหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งปวง การศึกษามีส่วนสัมพันธ์กับมิติทางสังคมทุกอย่าง แต่ทั้งนี้ ผู้เขียนขอฉายภาพรวมของคำว่า การศึกษา (EDUCATION) ในปริบทของสังคมโลกหลังยุคใหม่ ดังนี้

E = Empowerment ร่วมแรงแข็งขัน การศึกษาในภาพรวมจะต้องสร้างความเข้มแข็งจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งองค์กรต่างๆ ที่อยู่ภายในชุมชนด้วย

D = Democracy สร้างสรรค์ธิปไตย การศึกษาที่ดีต้องสร้างคนที่อยู่ในสังคมโลกให้รักและชอบวิถีความเป็นประชาธิปไตย เคารพเสียงส่วนมากแต่ต้องนำเสียงสะท้อนจากส่วนน้อยมาคิดพิจารณาก่อนการ “กระทำการ” ใดๆ ทั้งสิ้นด้วย

U = Unity ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียว การศึกษาที่ดีจะต้องนำความยิ่งใหญ่มาสู่สังคมโลกได้นั้น ต้องสามารถที่สร้างการบูรณาการในทุกๆ ด้านได้เป็นอย่างดี การศึกษาต้องพัฒนาวัฒนวิถีของสันติภาพของโลกได้ นอกจากนี้การศึกษาต้องเป็นเส้นทางการนำพาซึ่งความปกติโดยปราศจากความรุนแรงทั้งปวง

C = Community แลเหลียวชุมชน เพราะสังคมโลกเป็นสังคมที่มีขนาดใหญ่ ฉะนั้น การศึกษาต้องสอนให้ผู้คนที่อยู่ในชุมชนโลกเกิดการรักถิ่น ไม่ใช่ทิ้งถิ่น และต้องสอนให้เกิดสภาพที่เรียกว่า ชุมชนวิชาชีพแห่งการเรียนรู้ (Professional Learning Community) การสร้างโลกด้วยสภาพ “สังคมเรียนรู้และสังคมรู้เรียน”

A = Academy สร้างคนนักปราชญ์ การศึกษาทุกระบบ ทุกลักษณะของการจัดการต้องสร้างความรู้ให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างดี การใช้ความรู้บนเส้นทางของนักปราชญ์นั้นต้องรู้จักปรับ นำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับตนเอง ชุมชน และสังคมได้อย่างยอดเยี่ยม

T = Technology การศึกษาที่ดีต้องนำเอาเทคโนโลยีระบบสารสนเทศเข้ามาพัฒนาในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้คนในโลกได้เป็นอย่างดี
I = Innovation สร้างไปนวัตกรรม หน้าที่ของการศึกษาอีกประการหนึ่ง คือ การสร้างนวัตกรรม ความแปลกใหม่ ที่ผู้คนสามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

O = Opportunity น้อมนำโอกาส การศึกษาที่ดีต้องให้โอกาสต่อผู้เรียนทุกคนในการได้การเรียนรู้ ได้รับข้อความรู้อย่างเท่าเทียมกัน ตลอดจนต้องได้รับความรักความเมตตาจากครูผู้สอนโดยปราศจากอคติทั้งปวง

N = Nationalism รักชาตินิยม การศึกษาต้องสร้างความเป็นชาตินิยมให้กับผู้เรียน กระตุ้นส่งเสริม (Encourage) ให้ผู้เรียนรักชาติ พร้อมที่จะทำหน้าที่ของตนเองเพื่อชาติได้เป็นอย่างดี การศึกษาที่ดีและมีคุณค่าต้องส่งผ่านให้ผู้คนในรัฐชาติเข้าใจ ซาบซึ้งและหวงแหนความเป็นชาติ ความเป็นอัตลักษณ์ของชาติที่บรรพบุรุษได้สั่งสมมาไว้ให้กับอนุชนรุ่นหลัง

ตลอดจนต้องขัดเกลาบ่มเพาะให้มีการอนุรักษ์สิ่งที่ดีงามของชาติให้สืบไป

การศึกษา: ความจริง: สถานการณ์ในโลกหลังยุคใหม่

โดยธรรมชาติแล้ว การศึกษา ความรู้และความจริงเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันให้ได้ เพราะปัจจุบันนี้สถานการณ์ข้อความรู้ (Situated knowledge) มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเจริญเติบโตทางด้านวัตถุ ทำให้ผู้คนต่างให้ความใกล้ชิดและชื่นชมกับลัทธิบริโภคนิยมอย่างฝังลึก การสรรเสริญเงินตรานิยม และการผูกมัดและยึดติดกับอำนาจที่ปราศจากความยุติธรรม ทำให้ความจริงของสังคมมีสภาพที่คลอนแคลนพร้อมที่จะล่มสลายได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในสถานการณ์โลกหลังยุคใหม่ การศึกษา ความรู้ความจริงที่ปรากฏขึ้นหรืออุบัติขึ้นนั้น ไม่ใช่มีความหมายเพียงหนึ่งเดียว หรือชุดความรู้เดียว แต่หากขึ้นอยู่กับการตีความ (Interpretation/Hermeneutics) ของผู้คนในสังคมนั้นๆ ต่างหาก ความรู้จะเป็นที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้เป็นประติมากรรมทางสังคมนั้น ฉะนั้น ความรู้จึงถูกสถาปนาว่ามี “ความงาม” ทุกมุมมอง แต่อย่างไรก็ตามอยากจะชี้ชวนให้เข้าใจและซาบซึ้งในเรื่องของ “ขีดจำกัด” (limits) ที่ห่อหุ้มกับความรู้ที่เป็นอยู่ด้วย เช่น ขีดจำกัดความรู้ทางการเมืองแบบเก่า ขีดจำกัดของผู้คนที่ไม่ใส่ใจในการเสาะแสวงหาความรู้มาเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง จึงตกเป็น “เหยื่อ” ของผู้คนที่มีความรู้มากกว่าและขาดศีลธรรม แต่การยอมรับในขีดจำกัดเหล่านี้หากมองมุมกลับดูจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ เพราะจะทำให้เกิดการคิดค้นองค์ความรู้/ข้อความรู้แบบอื่นๆ ตามมา

ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันหากผู้คนในโลกต้องการที่จะปลดปล่อยตัวเองออกจากการครอบงำของบรรดาการศึกษาที่ส่งผ่านองค์ความรู้แบบเดิมๆ ที่มีอยู่และเป็นอยู่นั้น จำเป็นต้องในกระบวนส่งผ่านที่ถูกต้องและเหมาะสมกับปริบทพื้นฐานทางสังคมและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้านด้วย อนึ่งในสถานการณ์โลกหลังยุคใหม่ การถ่ายโยงอำนาจทางการศึกษา การให้ชุมชนสามารถรังสรรค์ความดีงามทางการจัดบริการทางการศึกษานั้น รัฐจะต้องให้ความช่วยเหลือในทุกด้านที่สามารถ

“สร้างเปลือกใหม่” ที่เข้มแข็งกว่าเดิมได้ จึงจะเรียกได้ว่า “สร้างและจัดการ” การศึกษา ความรู้ความจริงให้เกิดขึ้นในสังคมได้เป็นอย่างดีและสอดคล้องกันยิ่งนัก

สังคมที่ดีงาม : สร้างคุณค่าด้วยคุณธรรมการสร้างศรัทธาที่ดีงามนั้นเป็นสิ่งที่ทุกสังคมต้องการเห็นจากต้นแบบที่ดี โดยเฉพาะจากผู้ใหญ่เป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า ฉะนั้นการที่ศรัทธาจะคงทนและได้รับการยอมรับจากใจโดยดุษณีนั้น จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ในโลกต้องหันกลับมาพิเคราะห์กันให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ต้องมีความตระหนักและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่งดงามในสังคมไปในอนาคตด้วย การสร้างคุณค่าของสังคมโลกด้วยคุณธรรมเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีของ
ผู้มีอำนาจทั้งปวง สามารถทำได้ดังนี้

1.เคารพกฎกติกาที่สังคมสร้างขึ้น กล่าวตามความเป็นจริง สังคมจะอยู่เย็นเป็นสุขนั้น ผู้คนต้องไม่หา “ช่องว่าง” ที่จะเอาเปรียบผู้ที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน จะต้องมีใจที่ไม่หยาบกระด้างที่จะเคารพกติกาหรือข้อตกลงทางสังคมทั้งนั้น

2.ความรับผิดชอบ ถือได้ว่าเป็นคุณธรรมอันดับแรกของการสร้างคุณค่าให้กับผู้คนทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน วัยสร้างสรรค์สังคม และวัยที่เป็นต้นแบบของสังคม เมื่อเป็นเช่นนี้ ความรับผิดชอบต้องได้รับการปลูกฝังทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการและมีการกระทำอย่าง
ต่อเนื่อง

3.การสร้างคุณค่าด้วยคุณธรรมอีกประการหนึ่ง คือ การลดทอนอำนาจแฝงของตนเองที่มีอยู่ “อำนาจ คือ กลิ่นหอมที่ผู้คนอยากได้มาติดตัวตลอดไป แต่อำนาจที่เป็นคุณธรรมอย่างแท้จริง คือ อำนาจที่รู้ว่าตนเองหมดอำนาจ” คุณธรรมที่มีคุณค่าก็จะยังติดตัวไปแม้ว่าจะจากลาโลกนี้
ไปแล้ว

4.การมองเห็นภาพรวมมากกว่าภาพย่อย สิ่งนี้ถือว่าเป็นคุณธรรมที่มีคุณค่าระดับสูงขึ้น เพราะธรรมชาติทั่วไปของผู้คนในโลกปัจจุบันจะมีลักษณะที่มองใกล้มากกว่ามองไกล ภาพย่อยมากกว่าภาพรวม ทำให้ดูดีมากกว่าทำดี สร้างภาพมากกว่าสร้างสุข ฉะนั้น การที่จะสร้างคุณค่าด้วยคุณธรรมในสังคมได้มีประสิทธิภาพ เพียงแค่ “ผู้ใหญ่” ในสังคมเป็นแบบอย่างที่ดีได้ในทุกๆ กาลเทศะ

5.การมอบสันติภาพให้ซึ่งกันและกัน จะเป็นคุณค่าแห่งคุณธรรมที่ล้ำค่ามากที่สุดของสังคมโลก สันติเพียงแค่ปฏิบัติง่ายๆ และไม่ต้องลงทุนอะไรเลย คือ การยิ้ม การมอบรอยยิ้มที่จริงใจคือ สื่อสัญญะของมิตรภาพจะบังเกิดขึ้น ท้ายสุด คือ สังคมโลกจะสงบสุขร่มเย็นโดยปราศจากนัยแอบแฝงทั้งปวง

กล่าวโดยรวมแล้ว ชุดการศึกษาเพื่อการสร้างโลกและชุดการผลิตคุณค่าทางด้านคุณธรรม เป็นผลรวมเชิงสังคมที่มีหน้าที่ผลิตชุดความรู้ต่างๆ ให้กับผู้คนได้นำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ทั้งนี้ ชุดความรู้ที่ผ่านกระบวนการศึกษานั้นจะถูกนำไปสร้างและปรับใช้เป็นทักษะของชีวิตของผู้คนจะต้องเป็นภูมิคุ้มกันทางชีวิตที่ดีงามที่มาจากคุณค่าของคุณธรรมที่สร้างขึ้นด้วย โลกที่มีความก้าวไปกับเทคโนโลยีทางด้านต่างๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้คนจะต้องได้รับการศึกษาที่เป็นพลังร่วมในการพัฒนาทุกๆ ด้าน

การศึกษาเพื่อสร้างคุณธรรมที่ดีงาม ก็ต้องรอให้ผู้ที่เกิดก่อนเป็นแบบที่ดีให้ผู้เกิดหลังได้เห็น แค่นี้คงไม่ยากกับ…สร้างโลกด้วยการศึกษา สร้างคุณค่า (สังคม) ด้วยคุณธรรม… อย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image