มาตรวจภายในกันเถอะค่ะ : โดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข

ทําไมผู้หญิงต้องตรวจภายใน?

การตรวจภายใน เป็นการตรวจร่างกายโดยแพทย์ ที่องค์การอนามัยโลกประกาศยกย่องอย่างเป็นทางการว่า เป็นการตรวจที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที แต่ได้ข้อมูลทางสุขภาพภายในมาอย่างครบถ้วน

เป็นการตรวจอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและอวัยวะสืบพันธุ์ภายในสตรี ด้วยการดูลักษณะภายนอก ด้วยการใส่เครื่องมือถ่างขยายช่องคลอดที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ด (Speculum) เลือกขนาดที่เหมาะสมกับช่องคลอด และด้วยการคลำช่องท้อง เพื่อตรวจมดลูก ปีกมดลูก และรังไข่

ถือว่าเป็นการตรวจที่มีประสิทธิภาพ ในการวินิจฉัยโรคในเบื้องต้น สามารถตรวจหาพยาธิสภาพทางนรีเวช เช่น การอักเสบ ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื้องอก มะเร็ง ของช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก รังไข่ ตรวจหาพยาธิสภาพทางสูติกรรม เช่น แท้ง ตั้งครรภ์ผิดปกติ แล้วยังสามารถตรวจพบพยาธิสภาพของอวัยวะใกล้เคียงกับช่องคลอด ได้แก่ ริดสีดวงทวารหนัก ติ่งเนื้อทวารหนัก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้อีกด้วย

Advertisement

นอกจากนั้น การตรวจภายใน ยังสามารถตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกและตรวจหาไวรัสเอชพีวีที่ก่อมะเร็งปากมดลูกได้ในขณะเดียวกัน โดยใช้เครื่องมือเก็บเซลล์ที่ปากมดลูก ตรวจหามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น ที่เรียกว่า แป๊ปสเมียร์ (Pap smear) และตรวจหาดีเอ็นเอของไวรัสเอชพีวี

ควรตรวจภายในเมื่ออายุเท่าไหร่?
วิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (ACOG) แนะนำว่า

เด็กวัยรุ่นเพศหญิงทุกคนที่มีอายุ 13-15 ปีควรพบสูติแพทย์เพื่อรับการปรึกษาสุขภาพภายใน ซึ่งหากไม่มีปัญหาภายใน เช่น ไม่มีตกขาวผิดปกติ ไม่มีอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรง ยังไม่จำเป็นต้องตรวจภายใน หากมีอาการผิดปกติ หรือสงสัยว่ามีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรรับการตรวจ ซึ่งแพทย์ต้องอธิบายความจำเป็นของการตรวจ และได้รับการยินยอมจากคนไข้และผู้ปกครองก่อน

Advertisement

ผู้หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีอาการผิดปกติ แนะนำให้ตรวจภายใน เป็นการตรวจร่างกายประจำปี คัดกรองหามะเร็งปากมดลูก และคัดกรองการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม สำหรับการคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกทำโดยวิธีแป๊ปสเมียร์ ทำทุก 3-5 ปี

ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกและหาไวรัสเอชพีวี ทุก 3-5 ปี

สำหรับผู้หญิงทุกวัย หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีแผล แสบคันอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก มีตกขาวผิดปกติ        มีเลือดออกผิดปกติ ควรได้รับการตรวจภายในทันทีไม่ต้องรอให้ครบระยะการตรวจ

ประโยชน์ของการตรวจภายใน?
ในทางการแพทย์ แนะนำให้ตรวจภายใน เป็นโปรแกรมการตรวจร่างกาย ทุกหนึ่งปี โดยสมัครใจ แม้ไม่มีอาการผิดปกติ ซึ่งจะได้ประโยชน์ดังนี้
1.เป็นโรคแต่ไม่มีอาการ เช่น ติดเชื้อเริม ติดเชื้อรา ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มดลูกโต มีเนื้องอกมดลูก มีการอักเสบภายใน มีเนื้องอก หรือถุงน้ำรังไข่ เป็นต้น
2.มีอาการแต่ไม่ทราบว่าเป็นอาการของโรคภายใน
3.เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคภายใน เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มดลูก รังไข่ สามีมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สูงอายุ มีภูมิต้านทานบกพร่อง เป็นต้น

หยุดตรวจภายในเมื่ออายุเท่าไหร่?
คำตอบแบ่งได้เป็นสองแบบตามวัตถุประสงค์ของการตรวจภายในค่ะ

1.ตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็ง มีสามกรณี ดังนี้
1.1 ในหญิงที่ตัดมดลูก เนื่องจากเป็นโรคมะเร็ง หรือมีเซลล์ปากมดลูกผิดปกติขั้นสูง ควรตรวจภายในเพื่อ คัดกรองหามะเร็งปากมดลูก ตามที่แพทย์แนะนำ
1.2 ในหญิงที่ผ่าตัดมดลูกออกเนื่องจากโรคของมดลูกรังไข่ที่ไม่ใช่มะเร็ง ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกอีก
1.3 ในหญิงที่ยังมีมดลูก ควรหยุดคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เมื่อมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งถึงแม้ตรวจพบมะเร็ง      ก็ไม่สามารถรักษาได้ เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวย หรือเมื่ออายุประมาณ 75 ปี

2.ตรวจภายในเพื่อตรวจเช็กสุขภาพ หากร่างกายยังแข็งแรง ควรตรวจภายในทุกปี ดังนั้น อายุสูงสุดที่ควรตรวจภายใน ไม่มีกำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนไข้แต่ละคน

วิธีเตรียมตัวตรวจภายในยุ่งยากไหม?
ไม่ยุ่งยากแม้แต่น้อย
1.ปัสสาวะทิ้งก่อนตรวจก็เพียงพอ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องโกนขนหรือทำความสะอาด ก่อนตรวจ
2.นุ่งห่มชุดที่ถอดได้ง่าย
3.คืนก่อนตรวจควรงดเพศสัมพันธ์ เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องในการตรวจหาเชื้อโรคและเซลล์ผิดปกติ
4.ผู้ตรวจต้องยินยอม ทำใจให้สบาย หากเจ็บ ไม่สุขสบายในการตรวจ แจ้งแพทย์ได้
5.ไม่ควรตรวจภายในสองต่อสองกับแพทย์ ควรมีบุคคลที่สามซึ่งควรเป็นผู้หญิง
6.หากสงสัยผลการตรวจควรซักถามแพทย์ให้เข้าใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image