เดินหน้าชน : เจ้าท่า-หมดท่า : โดย สัญญา รัตนสร้อย

เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา เหล่าบรรดาข้าราชการบางส่วน มักจะ “เกียร์ว่าง” บ้างก็ใส่ “เกียร์ถอย” ติ๊ดชิ่ง เด้งเชือกไว้ก่อน ขืนทำงานออกหน้าออกตามากเกินไป เผื่อรัฐบาลใหม่มาจากพรรคฝั่งตรงข้ามรัฐบาลปัจจุบันจะได้ไม่ถูกหมายหัว

แต่ก็มีอีกประเภทคือ “เข้าเกียร์ไม่เป็น” ด้วยเพราะได้รับการโปรโมตขึ้นมา ไม่ใช่ด้วยความรู้ ความสามารถ แต่ด้วยเพราะเอาใจนายเก่ง

งานการแทนที่จะเดินหน้า กลับอยู่กับที่ บางทีก็ถอยหลังลงคลอง เพราะ “เข้าเกียร์ไม่เป็น” ทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าตัดสินใจ

ลองไปส่องที่กระทรวงคมนาคม ข้าราชการในหลายกรมกองเข้าทำนองดังกล่าว งานเลยสะเปะสะปะ ตุปัดตุเป๋

Advertisement

ขอโฟกัสชัดๆ อย่าง “กรมเจ้าท่า” มีภารกิจสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างเรื่องแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (ไอยูยู) ที่ “กรมเจ้าท่า” เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลัก แต่ผ่านมา 5 ปีแล้วยังแก้ไม่ตก สหภาพยุโรป (อียู) ยังคาใบเหลืองกับไทย

ส่วนหนึ่งเพราะผู้บริหารไม่เข้าใจสภาพปัญหา ไม่นานมานี้ ตัวแทน “อียู” ที่มาติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหา ก็ข้องใจการชี้แจงจาก “กรมเจ้าท่า” ที่เรือประมงกว่า 1,300 ลำ หายไปจากระบบอย่างไร้ร่องรอย โดยแจ้งว่าเรือจม ทำให้ “อียู” มึนงงว่าเหตุไฉนเรือประมงไทยถึงจมง่ายดาย มากมายขนาดนั้น

Advertisement

ทั้งนี้ เพราะประกาศเรื่องทะเบียนเรือประมง ที่ให้เวลาต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกเพิกถอนทะเบียนเรือทันที ทำให้เจ้าของเรือที่ไม่รู้ข่าวถูกยกเลิกทะเบียนเรือไปเกือบ 9,000 ลำ

มิหนำซ้ำหากจะไปต่ออายุใหม่ต้องรอไปอีก 2 ปี เพราะเมื่อ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีประกาศงดจดทะเบียนเรือประมงชั่วคราว 2 ปี จึงแห่แจ้งว่าเรือจม เพื่อนำเรือไปสวมทะเบียนเรือลำอื่นหรือจดทะเบียนเป็นเรือใหม่

ถือเป็นการบังคับเกินมาตรฐานสากล ทั้งที่ควรให้เวลามากกว่านี้เพื่อแจ้งให้เจ้าของเรือทราบอย่างทั่วถึงก่อน จะได้มีเวลาเตรียมตัวเข้ามาอยู่ในกรอบกฎหมาย

อีกกรณี จากโศกนาฏกรรมเรือ “ฟีนิกซ์” อับปางกลางทะเลบริเวณเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 47 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวจีนหวาดผวาไม่กล้ามาท่องเที่ยวในไทย

เหตุเรือล่มครั้งนี้ “กรมเจ้าท่า” ต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างมาก เพราะมีหน้าที่ตรวจสอบเรือตั้งแต่ “พิมพ์เขียว” ของเรือ ทั้งโครงสร้างเรือ อุปกรณ์ประกอบต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนจะออกใบอนุญาตให้ใช้เรือ แต่ว่ากันว่าเรือ “ฟีนิกซ์” ไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด

ขณะที่การกู้ซากเรือฟีนิกซ์ ที่ “กรมเจ้าท่า” รับปากจะกู้ขึ้นมาตั้งแต่สิงหาคม จนถึงป่านนี้ซากเรือยังจมอยู่ใต้ทะเล ทำให้ทางการจีนข้องใจว่าเหตุใดถึงชักช้า หรือกลัวว่ากู้ขึ้นมาแล้วความจริงจะปรากฏว่าเหตุใดทำให้เรือล่ม

นอกจากนี้ ยังมีหลากเรื่องที่ “กรมเจ้าท่า” ถูกมองว่าไม่โปร่งใส เช่น เรื่องการนำเรือขนาดใหญ่บรรทุกก๊าซทำเป็นคลังเก็บก๊าซกลางทะเล ซึ่งกรรมการเห็นว่าใบอนุญาตไม่ควรเกิน 2 ปี แต่กลับเพิ่มเป็น 5 ปี เอกชนยิ้มแก้มปริ

กรณีการก่อสร้างท่าเรือยอชต์ของเอกชน บริเวณชายหาดสุชาดา จ.ระยอง หรือการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซขนาดใหญ่และท่าเทียบเรือ บริเวณแหลมใหญ่ จ.สมุทรสงคราม ที่ได้รับอนุญาตจาก “กรมเจ้าท่า” ท่ามกลางข้อคลางแคลงใจของชาวบ้าน

จึงไม่แปลกใจที่การบริหารงบประมาณของ “กรมเจ้าท่า” อยู่ในอันดับบ๊วยในกระทรวงคมนาคม เป็นเสียงสะท้อนให้เห็นว่าการแต่งตั้งผู้บริหารที่ “เข้าเกียร์ไม่เป็น” นั้น นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายขยายวงซับซ้อนกว่าเดิม

ได้แต่หวังว่า “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ และ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ จะได้ยินเสียงสะท้อนเหล่านี้ เผื่อจะหาคนที่ “เข้าเกียร์เป็น” มาขับเคลื่อนงานให้ “กรมเจ้าท่า” ไปข้างหน้า ไม่ใช่ “หมดท่า” อย่างที่เป็น

สัญญา รัตนสร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image