สถานการณ์อันเรียกว่า “ฝุ่นตลบ” อยู่ในขณะนี้มีลักษณะเชื่อมร้อยกันเหมือนกับเป็น “ลูกโซ่” จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ถามว่าทำไมจึงหลุดคำ “ซังกะบ๊วย” ออกมา
คำตอบเห็นได้ชัดว่า สัมพันธ์กับคำประกาศแบ่งเขตซึ่งออกมาจาก “กกต.” ที่ประสบมาไม่ว่าในต่างประเทศ หรือเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย
ถามต่อไปอีกว่าทำไมการแบ่งเขตจึงกลายเป็นปัญหา
คำตอบหากสดับตรับฟังจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อาจเสมอเป็นเพียงคำถามว่า มีใครขอมาหรือเปล่า
แต่คนในพื้นที่ระบุเพราะนักการเมือง “อาวุโส” คนหนึ่ง
ยิ่งหากย้อนกลับไปยังบรรยากาศการประชุมใหญ่ ณ โรงแรมแชงกรี-ลาก็คงจะได้ยินเสียงประกาศก้องกังวานกระหึ่ม
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
หากไม่มีความเชื่อมั่นว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” หากไม่มีความเชื่อมั่นว่า การมี ส.ว.อยู่ในมือ 250 คนเหมือนกับถนนอันปูลาดด้วยทองคำ
ไฉนจะมีคำสั่งที่ 16/2561
การที่ กกต.สามารถกำหนดเขตเลือกตั้งโดยเฉพาะที่สุโขทัย นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา อุบลราชธานี ขึ้นใหม่โดยไม่สนใจเสียงร้องด้วยความไม่พอใจจากพื้นที่
มิใช่เพราะได้อำนาจจาก “มาตรา 44” หรอกหรือ
ถามว่าใครเป็นคนลงนามในคำสั่ง คสช.อันเริ่มจากที่ 53/2560 ตามมาด้วยคำสั่งที่ 13/2561 ยังไม่พอ ยังต้องมีคำสั่งที่ 16/2561 อีก
พรรคประชาธิปัตย์รู้ พรรคเพื่อไทยรู้
ลองไปดูจังหวัดที่แบ่งเขตอย่างพิสดารก็จะสัมผัสได้ถึงบรรดา “ขาใหญ่” ที่ทยอยขนอดีต ส.ส.เข้าไประลอกแล้วระลอกเล่า มิใช่หรือ
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ก็รู้เพราะอย่างน้อยก็มี “อดีต กกต.” แจ้งความจำนงลงสมัคร เมื่อพรรคเพื่อไทยก็รู้พอๆ กับที่พรรคไทยรักษาชาติรู้ เพราะถูกกระทำมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อเนื่องจากปี 2549 มายังปี 2561
หูของคนในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ไม่ใช่หูกระทะ หากเป็นหูที่พร้อมจะได้ยินเสียงทุกเสียง
ไม่ว่าเสียงว่าด้วย “ซังกะบ๊วย”
ยิ่งเสียงว่าด้วย “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” ซึ่งต่อเนื่องไปยังว่าด้วย “พรรคเรากวาด 350 ส.ส.”
ยิ่งกึกก้อง กังวาน
ตาของคนในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ไม่ใช่ตาไม้ หากแต่เป็น 2 ตาอันเบิกกว้างด้วยประสบการณ์ในทางการเมือง
มีหรือที่จะนิ่งเฉย ไม่หือ ไม่อือ
ต้องขอบคุณคำกล่าวที่ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” ต้องขอบคุณความเชื่อมั่นที่ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงถึงกับยืนยัน
“พรรคเรากวาด 350 ส.ส.”
เพียงแต่เมื่อตรวจสอบความเชื่อมั่นอย่างประสานกับความเป็นจริงทางการปฏิบัติก่อนการเลือกตั้งเพียง 2 เดือนไม่ว่าจะมาจากในทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะมาจากในพรรคบางพรรค
ก็เริ่มไม่แน่ใจว่ายังจะมีความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรมเหลืออยู่หรือไม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
