สถานีคิดเลขที่ 12 : กระแสกัญชา 19ธ.ค.61

การประกวดรอบสัมภาษณ์เวทีการประกวดนางงามมิสยูนิเวิร์ส มักมีคำถามที่เป็นเรื่องทางสังคมที่กำลังเป็นประเด็นในช่วงเวลานั้นๆ เพิ่มสีสันและเปิดมุมมองของนางงามมากขึ้น นอกเหนือไปจากเรื่องรักเด็กและชูบทบาทสตรี

คำถามหนึ่งในรอบสัมภาษณ์ 10 คนสุดท้ายบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 เป็นประเด็น “กัญชา” ว่าเห็นอย่างไรเมื่อจะทำให้พืชชนิดนี้ถูกต้องตามกฎหมาย

คนที่ตอบเป็นนางงามฟิลิปปินส์ แคทรีโอนา เกรย์ ซึ่งพิชิตมงกุฎในเวลาต่อมา

หญิงสาวตอบว่า “สำหรับฉันหากใช้ทางการแพทย์ก็เห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยถ้าใช้เพื่อสันทนาการ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้คนจะถกเถียงกัน เหมือนกับแอลกอฮอล์และบุหรี่ แน่นอนว่าทุกอย่างมีข้อดี แต่ต้องใช้ให้พอเหมาะพอควรค่ะ”

Advertisement

คำตอบที่เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือกราวใหญ่นี้แม้เนื้อหาแนวตอบตามสูตรอยู่บ้าง แต่เป็นผลดีกับผู้ประกวด เพราะมุมมองกลางๆ คือไม่เสรีเกินไป แต่ก็ไม่เคร่งครัดเกินไป มักทำให้คนส่วนใหญ่พอใจและเห็นด้วย

ไทยเองทั้งบุคคลในวงการแพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐก็พยายามจะจัดการเรื่องกัญชาออกมาเป็นแนวกลางๆ เหมือนกัน หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติลงมติเอกฉันท์รับหลักการวาระแรก ให้ปลดล็อกกัญชาให้ใช้ทางการแพทย์ได้ พร้อมตั้งเป้าตราเป็นกฎหมายภายใน 60 วัน

กระแสใช้กัญชาดังกล่าวนี้ผุดขึ้นพร้อมๆ กันทั่วโลก จนนำไปสู่การผลักดันเป็นกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆ จะตรากฎหมายเพื่อเป้าหมายใด

Advertisement

กรณีของ อุรุกวัยเป็นประเทศแรกที่ทำให้การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการหรือความบันเทิง ถูกกฎหมาย เพราะมุ่งจะใช้กฎหมายนี้จัดการกับเครือข่ายระหว่างองค์กรอาชญากรรม และผู้ค้ากัญชาเป็นหลัก

ด้วยเห็นว่าถ้าธุรกิจนี้อยู่ใต้ดินแล้วเป็นเครื่องมือให้กลุ่มอิทธิพลใช้ประโยชน์ รัฐบาลก็ขอทุบหม้อข้าวหักดิบกับแก๊งอาชญากรเสียเลย

สำหรับแคนาดา ชาติพัฒนาแล้วและอยู่ในกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก สมาชิกสภาเห็นชอบให้ปรับกฎหมายการซื้อขาย การครอบครอง และการใช้กัญชาเพื่อความบันเทิงได้ไปเมื่อเดือนมิถุนายน หลังจากอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ตั้งแต่ปี 2544

นายกฯ จัสติน ทรูโด บอกว่ากฎหมายนี้จะช่วยจัดการไม่ให้เด็กเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย และป้องกันไม่ให้อาชญากรฉวยทำกำไร คล้ายกับกรณีของอุรุกวัย แม้ว่าปัญหาจะไม่หนักเท่า

สหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจที่มีประชาชนทั้งอนุรักษนิยมจ๋าและเสรีนิยมจ๋า ทางรัฐบาลกลางตั้งแต่สมัยบารัค โอบามา เปิดทางให้ผู้บริหารมลรัฐต่างๆ หา
นโยบายทางเลือกที่จะบังคับใช้กับกัญชาตามพื้นที่ของตนเอง จะจำกัดเฉพาะการแพทย์ หรือจะใช้เพื่อสันทนาการ ไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันทั้งประเทศ

ส่วนเม็กซิโก ประเทศที่เผชิญปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมจากแก๊งอิทธิพลสูงมาก รัฐบาลใหม่แนวเอียงซ้าย ประกาศจะเดินหน้าให้การใช้กัญชาทั้งทางการแพทย์และความบันเทิงเป็นสิ่งถูกกฎหมาย

การปลดล็อกกัญชาที่เป็นกระแสโลก ทำให้การปลูกกัญชาเป็นพืชสมุนไพรหรือพืชเศรษฐกิจเป็นประเด็นตามมาและคงต้องถกเถียงกันต่อให้กว้างขวาง

เพียงแต่สังคมของการถกเถียงต้องตั้งต้นที่ประชาธิปไตยก่อน จึงจะรู้รอบด้านว่าควรทำอย่างไรกับกัญชา

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image