| ผู้เขียน | สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา |
|---|
เห็นหลายฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ประสบภัยพายุ “ปาบึก” แล้ว
ถือว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก
ความร่วมแรงร่วมใจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบรรดานักการเมือง ไม่ใช่แค่การลงพื้นที่เดินแจกของผู้ประสบภัยเพื่อหาเสียงเท่านั้น
แต่หลายคนหลายฝ่ายยังสามารถแยกแยะการช่วยเหลือ เพื่อต้องการช่วยเหลือชาวใต้อย่างจริงจัง
ยกตัวอย่างเช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยอมเลื่อนการแถลงนโยบายของพรรคเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ออกไปก่อน
เพื่อให้ผู้บริหารพรรคที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ร่วมด้วยถึง 4 คน ประชุมเตรียมการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยที่มีอยู่จำนวนมากที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก
ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ในวันที่ 7 มกราคม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สั่งลูกพรรคในพื้นที่งดกิจกรรมทางการเมือง เพื่อให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ ได้สั่งการให้สมาชิกพรรคลงพื้นที่ เกาะติดสถานการณ์และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบเหตุ โดยเน้นย้ำให้ช่วยเหลือด้วยความจริงใจ ไม่ใช่การหาเสียงหวังผลทางการเมือง
พรรคอนาคตใหม่ให้สมาชิกทุกคนในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยศูนย์ประสานงานหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เร่งให้ความช่วยเหลือ
ที่สำคัญคือไม่มีนักการเมืองคนไหน หรือพรรคการเมืองคนไหน ฉวยโอกาสไปปราศรัยหาเสียงกับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะจะกลายเป็นการขาดจิตสำนึก
และเชื่อว่ายังมีพรรคการเมืองอีกหลายพรรค ที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ หรือกำลังจะช่วย แต่ไม่ได้เป็นข่าว
หากย้อนเหตุการณ์ไปช่วงหลังวันปีใหม่หมาดๆ
เริ่มมีข่าวออกมาเตือนว่าพายุปาบึกจะเข้าอ่าวไทยและถล่มภาคใต้ของประเทศไทยมาเป็นระยะ
ช่วงแรกผู้คนยังไม่ค่อยให้ความสนใจข่าวนี้กันมากนัก อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงแห่งการพักผ่อนเทศกาลปีใหม่ จึงไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารเท่าที่ควร
แต่โชคดีที่ต่อมาบรรดาสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์พายุ “ปาบึก” รายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความตื่นตัวอย่างมาก
หน่วยงานทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ข้าราชการและเอกชน ต่างระดมสรรพกำลังกันเตรียมรับมือกันอย่างเข้มข้น
มาถึงวันนี้ พายุผ่านไปแล้ว แม้จะทำให้เกิดความเสียหายอยู่บ้าง
แต่ก็น้อยกว่าที่หวั่นใจกันในตอนแรกว่าจะหนักหนาสาหัส เมื่อเทียบกับพละกำลังของพายุลูกนี้
ถือเป็นความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทุกฝ่ายอีกครั้ง โดยเฉพาะบรรดานักการเมืองทั้งหลาย
ไม่ว่าจะทำเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ แค่ไหนก็ตาม
และแม้จะไม่แน่ใจว่าภาพเหล่านี้จะมีโอกาสได้เห็นหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ช่วงก่อนเลือกตั้ง
แต่อย่างน้อย ถือว่าเป็นอานิสงส์ของพายุปาบึกครั้งนี้
ทำให้เราได้เห็นความมีน้ำใจของทุกฝ่าย
โดยเฉพาะสปิริตและจิตสำนึกของบรรดานักการเมือง ไม่คิดถึงแต่เรื่องหาเสียงจนไม่ลืมหูลืมตา
เป็นสิ่งดีๆ ในสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในยามนี้
สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา
