สถานีคิด : สุดทางที่เลือกตั้ง : โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

บรรดาบิ๊กๆ รัฐบาล ต่างออกมายืนยันว่า การเลือกตั้งจะเกิดในกรอบกำหนด

คือภายใน 150 วัน หลังจากกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ นับจาก 11 ธ.ค.2561 ไปถึง 9 พ.ค.นั่นเอง

150 วันตอนนี้ หมดไปเกิน 30 วันแล้ว ก็ต้องไปบริหารจัดการกันว่า จะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร

ประกาศพระราชกฤษฎีกาแล้ว กำหนดวันเลือกตั้งใน 5 วัน ถ้าใช้เต็มๆ 5 วันก็จะหมดเวลา ทำให้กระชั้นไปอีก

Advertisement

จะเปิดรับสมัครพร้อมกับส่งชื่อนายกฯเมื่อไหร่ เหลือเวลาหาเสียงกี่วัน

ตอนนี้ข่าวระบุว่า คงจะเลือกกันวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. ตามที่รัฐบาลผลักดันแต่ต้น นับจาก 24 มี.ค.ไป 9 พ.ค. เท่ากับ กกต.จะเหลือเวลารับรองผลเลือกตั้ง ประมาณ 45 วัน

แทนที่จะเป็น 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

Advertisement

สำหรับการกำหนดรับรองผลเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งถือว่ายาวนานมาก ก็เป็นที่ถกเถียงกันมากว่า จะกำหนดไว้ยาวนานขนาดนั้นเพื่ออะไร

ดังนั้นถ้าจะต้องรับรองภายใน 45 วันก็ถือว่ายังเหลือเฟืออยู่

นั่นคือ ภาพของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

เพียงแต่ว่า ไม่มีผู้รับผิดชอบ ออกมายืนยันให้ชัดเจน มีแต่ยืนยันแบบคลุมเครือ เผื่อโน่นนี่ไว้มากเกินความจำเป็น

ผลคืออะไร คือความหวั่นไหวไม่มั่นใจของประชาชนทั่วไป

อย่างที่ผู้สมัครเขาเล่ากันว่า ลงพื้นที่ไปเจอประชาชนมีแต่คำถามเซ็งแซ่ว่า แล้วจะเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ อาการแบบนี้จะเลือกหรือไม่เลือก

คนที่ลงพื้นที่ไปก็ตอบไม่ได้ ได้แต่คาดคะเนไปต่างๆ นานา

จะไปแสดงออกมากเกินไป อาจเจอข้อหา “คลั่งเลือกตั้ง” ขึ้นมาอีก

ถามว่า การไม่ยืนยันให้ชัดๆ และก่อให้เกิดความหวั่นไหวไม่มั่นใจขึ้นมาในสังคมอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ใครได้ประโยชน์

คนที่ได้ประโยชน์แน่นอน คือคนที่ไม่อยากให้เลือกตั้งนั่นเอง มีทั้งพวกที่เชื่อจริงๆ ว่าการเมืองเป็นเรื่องวุ่นวาย ให้ทหารเข้ามาจัดการก็ดีแล้ว บ้านเมืองสงบเงียบไม่มีม็อบ โดยไม่ได้รู้เนื้อในของระบบที่เงียบเชียบนี้ว่าเขาทำอะไรกันสนุกสนานแค่ไหน

อีกพวก คือกลุ่มที่เพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นกอบเป็นกำที่เกิดขึ้นในระบบที่ไม่ต้องเลือกตั้ง

ไม่ต้องถูกระบบตรวจสอบเพราะเป็นคนกันเอง หรือถ้าถูกตรวจสอบก็มีเส้นสายช่วยเหลือให้รอดไปได้

พลังตรวจสอบจากสังคมก็แผ่วเต็มที เพราะมีกลไกที่จะมากดมาบีบ ในนามของ “ความมั่นคง”

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งของประเทศไทย คงจะขยับไปทีละก้าว แบบอิดๆ เอื้อนๆ ยืดๆ ยาดๆ แต่สุดทางก็จะเป็นการเลือกตั้งนั่นเอง

ถึงตรงนั้น ก็เป็นหน้าที่ของประชาชนเจ้าของสิทธิ ที่สะสมการรู้เห็นต่างๆ มาตลอดหลายปี

ทุกเสียงมีพลังเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่มี การเลือกตั้งคงเกิดขึ้นไปนานแล้ว

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image