รื่นร่มรมเยศ : นั่งกรรมฐานไปนรก-สวรรค์จริงหรือ : โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

สมัยผมบวชพระใหม่ๆ เรียนบาลีจบเปรียญ 9 ประโยคแล้ว ไม่มีอะไรจะเรียนต่ออีก จึงหันมาเอาดีทางปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกิจด้านวิปัสสนาธุระ

คุณหลวงอาณัตินาวาการ บ้านอยู่ใกล้วัดที่ผมอยู่ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมถกรรมฐาน มาสอนกรรมฐานให้ผมกับพระนวกะอีก 5 รูป

คุณหลวงท่านมีวิธีสอนแปลก คล้ายเพ่งกสิณแต่ก็ไม่ใช่ เพราะท่านกล่าวนำคล้ายสะกดจิตด้วย ท่านให้เรานั่งสงบต่อหน้าพระพุทธรูป ให้ดับไฟหมดทุกดวง จุดเทียนให้แสงเทียนสะท้อนพระพุทธรูป ปรากฏสีเหลืองอร่ามให้จ้องพระพุทธรูปจนจำติดตาแล้วหลับตาลง นึกให้เห็นภาพชัดเจน ถ้านิมิตยังไม่แจ่มชัด ให้ลืมตาจ้องดูใหม่แล้วหลับตา จนภาพนั้นแจ่มชัด แล้วให้อัญเชิญพระพุทธรูปนั้นมาประดิษฐานบนไหล่ซ้าย ย้ายมาไหล่ขวา แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานเหนือสะดือประมาณสองนิ้ว ให้หยุดเพ่งพระพุทธรูป ณ จุดนั้นนานๆ จนกระทั่งภาพปรากฏชัดใสกระจ่างไม่หายไปไหน

ทุกขั้นตอนคุณหลวงจะกล่าวนำเป็นระยะๆ เสียงที่กล่าวนำนั้นแว่วดังหนึ่งว่ามาจากที่ไกลแสนไกล มีพลังประหลาด

Advertisement

พอถึงขั้นนี้แล้ว คุณหลวงจะสั่งให้ไปนรก หรือสวรรค์แล้วแต่กรณี โดยการพูดนำให้นึกเห็นภาพ

ภาพนรกหรือสวรรค์จะปรากฎชัดแจ๋วแหวว ยังกะภาพในจอโทรทัศน์ เช่น ถ้าไปนรกจะปรากฏภาพต้นงิ้ว กระทะทองแดง ยมบาล ฯลฯ ถ้าไปสวรรค์จะปรากฏภาพต้นปาริชาติ พระเจดีย์จุฬามณี พระอินทร์ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์

พวกเราไปเที่ยวนรกสวรรค์กันเพลินตลอดพรรษา ออกพรรษาแล้วพระนวกะสึกไปหมด เหลือผมคร่ำเคร่งปฏิบัติอยู่รูปเดียว ด้วยการแนะนำของคุณหลวง ประสบการณ์ทางจิตอันประหลาดไม่เคยพบเห็นมาก่อนทำให้ผมเคลิ้มไปว่าตนได้ “บรรลุ” คุณวิเศษที่พระเณรอื่นไม่มีโอกาสได้รู้เห็น

Advertisement

ผมได้เล่าให้ท่านเจ้าคุณอาจารย์ฟังในวันหนึ่ง ถูกท่านดุเอา

“กรรมฐานอะไรของเธอพาไปนรกสวรรค์ สมถกรรมฐานมีจุดประสงค์เพื่อทำจิตใจให้สงบ ระงับกิเลสได้ชั่วคราว วิปัสสนากรรมฐานมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงซึ่งสภาวธรรมทั้งหลาย การนั่งกรรมฐานเพื่อจุดประสงค์อย่างอื่นล้วนนอกลู่นอกทาง เหลวไหลทั้งนั้น”

เมื่อผมเรียนท่านว่า ผมเห็นนรกสวรรค์จริงๆ ท่านกล่าวว่า นรกสวรรค์ที่เห็นนั้นมันเป็นจินตนาการที่จิตสร้างขึ้น ตามการกล่าวนำหรือการ “สะกดจิต” ของอาจารย์ผู้สอน ไม่ใช่ของจริง เมื่อเห็นผมทำหน้างง ท่านอธิบายต่อไปว่า

“ลองคิดดูให้ดี ทำไมเวลาไปนรกจึงเห็นเฉพาะต้นงิ้ว กระทะทองแดง ยมบาล เวลาไปสวรรค์จึงเห็นเฉพาะสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เช่น ต้นปาริชาติ พระเจดีย์จุฬามณี พระอินทร์ และทำไมพระอินทร์จึงต้องผิวสีเขียวเท่านั้น ไม่เป็นสีอื่นบ้าง

เพราะสิ่งเหล่านี้ถูกเล่าต่อๆ กันมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย ตอกย้ำจิตสำนึกของเราอยู่ตลอดเวลาใช่ไหม เมื่อถูกจูงใจให้นึกถึง ภาพนิมิตจึงปรากฏออกมาตามที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจไม่ผิดเพี้ยน”

ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เห็นนรกสวรรค์อีกเลย ไม่ว่าจะพยายามนั่งนึกวาดภาพอย่างไรก็ตาม ผมจึงเลิกฝึกกรรมฐานแบบ “สะกดจิต” ตัวเอง หันมาปฏิบัติสติปัฏฐานมาแต่บัดนั้น

เดี๋ยวนี้ถึงใครจะมาคุยว่านั่งกรรมฐานแล้วเห็นดวงแก้ว ดวงมณี หรือไปนรกสวรรค์ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระอรหันต์อะไรที่ไหน ผมไม่ตื่นเต้นเพราะรู้แล้วว่า

มิใช่ทางไปสู่ความหลุดพ้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งติด ยิ่งยึดมั่น หลงไปตามนิมิตที่สร้างขึ้น สติรู้ไม่เท่าทัน

เผลอๆ จะบ้าเอาด้วย จะบอกให้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image