เล่นงาน ธนาธร : เป็นไป ตาม ยุทธศาสตร์ : เป็นไป ตามแผน

การขับเคลื่อนเพื่อ “สกัด” พรรคอนาคตใหม่ที่เริ่มด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตามมาด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล มิได้เป็นเรื่องของ “เทศกาล”

ตรงกันข้าม มีลักษณะในทาง “ยุทธศาสตร์”

บางคนอาจจะมองไปยังภาพของ “ป้าอุ๊” ประสานเข้ากับ “ป้าสินจัย” บางคนอาจจะมองไปยังภาพของ “ลุงเสรี” ประสานเข้ากับ “ลุงดี้”

แต่ถามว่าใครไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน

Advertisement

แต่ถามว่าใครไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ บก.ปอท.

คำตอบคือ “คสช.”

อย่าได้แปลกใจที่เมื่อประสบเข้ากับกองทัพของคณะทูตานุทูตจาก 12 ชาติและองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงต้องออกโรง

Advertisement

นี่คือ “ยุทธวิธี” อันดำเนินไปตาม “ยุทธศาสตร์”

ขณะที่การเมืองหลังการเลือกตั้งยังปั่นป่วนและวุ่นวายอยู่กับการต่อสู้ผ่าน “คณิตศาสตร์ การเมือง” โดยมีเส้นแบ่งอยู่ที่ 250 ขณะนี้

สายตาอาจมองไปที่พรรคเพื่อไทยในฐานะที่ได้ ส.ส.เป็นอันดับ 1

ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐก็เน้นแล้วเน้นอีกต่อจำนวน 8.4 ล้านคะแนนรวมให้เห็นความชอบธรรมที่จะอยู่ในฐานะคนจัดรัฐบาล

ถามว่าทำไมพรรคอนาคตใหม่จึงกลายเป็นตำบล กระสุนตก

ถามว่าทำไมปฏิบัติการ IO จึงรวมศูนย์อย่างหนักแน่นและจริงจังไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปยัง นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ฟื้นคดีตั้งแต่เมื่อ 4 ปี ฟื้นคลิปตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน

หากพรรคอนาคตใหม่ไม่มี 6.3 ล้านคะแนนเสียง หากพรรคอนาคตใหม่ไม่อยู่ในฐานะพรรคอันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ

ปลายหอกจะพุ่งเข้ายอดอกหรือ

เมื่อแหวกม่านแห่งการดำรงอยู่ของแต่ละพรรคการเมือง ต้องยอมรับว่าระยะ 1 ปีที่ผ่านมาการก่อรูปของพรรคอนาคตใหม่สร้างจุดต่าง

นี่คือ พรรคในลักษณะ “มวลชน” อย่างแท้จริง

นี่คือ พรรคที่แนวแน่และมั่นคงในคำประกาศ “ปักธง ความคิด” และอาศัยหลักการนี้สะสมความนิยม แปรความนิยมเป็นคะแนน

เพียง 1 ปีก็มีสาขาพรรคครบ 77 จังหวัด

นี่คือรากฐานทำให้พรรคอนาคตใหม่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่เก่าแก่ตั้งแต่ปี 2489 ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยที่ต่อยอดจากพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2541

อย่าว่าแต่พรรคอย่างพลังประชารัฐที่เริ่มต้นจาก “พลังดูด” เลย

เมื่อมองจากฐานคิดในแบบของ “คสช.” พรรคอนาคตใหม่จึงเป็นพรรคที่สร้างความหวั่นไหวเป็นอย่างสูง

จำเป็นต้องมี “ยุทธศาสตร์” ในการจัดการ จำเป็นต้องดำเนิน “ยุทธวิธี” เพื่อบรรลุ “ยุทธศาสตร์”

คําถามก็คือ เบื้องหน้ายุทธศาสตร์เช่นนี้ของ คสช.อันเป็นฝ่ายกุมกลไกแห่งอำนาจรัฐและต้องการสืบทอดอำนาจอย่างจริงจัง

พรรคอนาคตใหม่ “สำเหนียก” มากน้อยเพียงใด

หรือเพราะต้องพัวพันอยู่กับการถูกรุก ถูกโจมตีในแบบรายวันตามยุทธวิธีของอีกฝ่าย ทำให้ละเลยและมองข้ามสภาพความเป็นจริงในทางยุทธศาสตร์ที่มั่นแน่ว

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงทุกอย่างเป็นไปตามหลัก “การศึกมิหน่ายเล่ห์” เด่นชัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image