ผู้เขียน | เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ |
---|
ผ่านไปอีกเรื่องหนึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยปัญหาการนับคะแนนผลการเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อว่าจะให้กำหนดจำนวนขั้นต่ำอย่างไร ถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ต้องตัดสินใจเองตามกฎเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งถึงอำนาจหน้าที่ และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง กับการตีความกันเองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
จากวันนี้ 3 พฤษภาคม ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 มีเวลาเพียง 7 วัน หรือสัปดาห์เดียวที่คณะ กรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้ครบจำนวนทุกเขตเลือกตั้ง หรืออย่างน้อยต้องได้ร้อยละ 95 จึงจะนำไปสู่การเปิดรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาได้
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงสัปดาห์หน้าวันที่ 9 พฤษภาคม และต่อจากนั้น ผู้ที่คนไทยต้องเห็นหน้าเห็นตาคือประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง และประธานวุฒิสภา กับรองประธาน สภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคนที่ 2 กับรองประธานวุฒิสภา คนหนึ่งหรือสองคน
ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราวคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีอายุมากที่สุดครั้งนี้คงไม่มีใครอายุมากกว่านายชัย ชิดชอบ แห่งพรรคภูมิใจไทย ขึ้นบัลลังก์นั่งปฏิบัติหน้าที่เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรจนเสร็จ จึงหมดหน้าที่
ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งสำคัญ เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ต้องเป็นผู้ที่นำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง
การนำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องเป็นไปตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมาก หรือพรรคการเมืองที่นำเสนอมาตั้งแต่ลงเลือกตั้งพรรคละ 3 คน ให้เหลือเพียงคนเดียว ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคนั้นต้องมีคะแนนเสียงตามกำหนด
วันนี้มีสองพรรคที่มีโอกาสนำเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี คือพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ
นับแต่วันนี้ เจ้าของเสียงสวรรค์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องคอยลุ้นว่า พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอชื่อใคร หนึ่งในสามที่นำเสนอชื่อไปก่อนหน้านี้ ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะนำเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่เคยเสนอไว้หรือไม่
ขณะยังไม่มีการตีความเป็นที่สุดว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่
ต้องไม่ลืมว่า วันนี้ยังไม่มีการชี้ขาดออกมาชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีคุณสมบัติอย่างไร หากต้องการทราบให้ถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำตอบชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการ
หากผิดไปจากนั้น หรือแม้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ไม่เข้าคุณสมบัติทั้ง 3 ประการ อาจไม่เป็นเจ้า หน้าที่ของรัฐในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ เช่นเวลาที่นำเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี หรือเวลาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงคะแนนเลือก ขณะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ณ เวลานั้น
กระนั้น มีเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียว ที่เจ้าของเสียงในหีบเลือกตั้งจะได้รู้เสียทีว่า ระหว่างพรรคที่มีจำนวนผู้ได้รับเลือกตั้งมากกว่า กับพรรคที่มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมากกว่า พรรคคการเมืองใดจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และจะใช้ความข้อใดเป็นข้อกำหนดหรือตีความ
หรือพรรคการเมืองใด รวบรวมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล
แต่ต้องไม่ลืมว่า หากการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรกตามพระราชบัญญัติไม่สำเร็จ ยังมีการเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งด้วยการเสนอชื่อใครก็ได้ โดยมีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกอีก 250 เสียงร่วมด้วย
หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ขาดคุณสมบัติเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ ณ เวลานั้นมิได้ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่รัฐ โอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งน่าเป็นไปได้- -โถ ก็รัฐธรรมนูญเขาร่างมาให้พวกเราไง