การเมืองเรื่องหุ้นสื่อ(1) : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

เรื่องเขียนกฎหมายห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของสื่อมวลชน กำลังบานปลายออกไปเรื่อยๆ ไม่มีใครตอบได้ว่าจะยุติลงอย่างไร เมื่อไหร่
หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีหุ้นบริษัทวี ลัค มีเดีย จำกัด อาจเข้าข่ายขัดมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และมาตรา 42 พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ซึ่งใช้ข้อความเดียวกันคือ บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ

ต่อมามีผู้ยื่นเรื่องร้อง กกต.ให้สอบคุณสมบัติ 32 ผู้สมัครจาก 6 พรรคที่มีแนวทางคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.ในข้อหาเดียวกัน คือ
ถือหุ้นสื่อมวลชน

และต่อมาผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่และตัวแทนพรรคเพื่อไทยได้ยื่นเรื่องให้ กกต.สอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐโดยข้อหาเดียวกันบ้าง ทำให้ผู้ร้องกรณีนายธนาธร
ร้องเพิ่มให้สอบคุณสมบัติผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อีก 11 คน

ต่อไปจะมีใคร ฝ่ายสนับสนุนอำนาจนิยม ฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายรอเสียบข้างผู้ชนะ ร้องให้สอบผู้สมัครคนอื่น พรรคอื่นๆ อีกหรือไม่ คงต้องรอติดตามละครับแต่ที่แน่ๆ การร้องเรียนและการตัดสินขององค์กรที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ กกต.จนถึงศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีนี้ จะส่งผลกระทบทำให้จำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สถานการณ์การเมืองในภาพรวมลุกลามต่อไปจนถึงการยุบพรรค เลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ แต่ละฝ่ายรอดูการคลี่คลายของสถานการณ์อย่างอกสั่นขวัญแขวน

Advertisement

เหตุการณ์จะเป็นเช่นไรต่อไปก็ตาม การร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ทำให้เกิดข้อถกเถียงสาธารณะมากมายหลายประเด็น ซึ่งควรนำไปพิจารณาหาทางวางบรรทัดฐานการปฏิบัติในการกล่าวโทษ การตัดสินลงโทษให้ชัดเจน มีเหตุผลรองรับ เกิดความเป็นธรรมและสังคมส่วนใหญ่รับได้

ตั้งแต่การกำหนดกรอบของวลีที่ว่า “ความเป็นเจ้าของสื่อหรือถือหุ้นสื่อที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย” มีขอบเขตอยู่ตรงไหน

ควรตีความข้อความหรือถ้อยคำตามตัวอักษรอย่างแคบ เคร่งครัด หรืออย่างกว้าง ยอมรับความเป็นจริงในทางปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น ถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว เป็นต้น

Advertisement

ความเป็นเจ้าของพิจารณาจากจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ควรมีสัดส่วนมากหรือน้อยแค่ไหน ในความเป็นจริงสามารถใช้อิทธิพล ครอบงำ ชี้นำการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนให้เป็นไปตามเป้าหมายของตัวได้หรือไม่

หรือกรณีเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนบริษัทที่ใบบริคณห์สนธิประกอบธุรกิจของบริษัท เขียนวัตถุประสงค์ไว้หลายสิบข้อ ข้อหนึ่งในนั้นมีกิจการสื่อรวมอยู่ด้วย แต่ความเป็นจริงบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจอื่น อาทิ รับเหมาก่อสร้างไม่ได้ทำธุรกิจสื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าวอยู่เข้าข่ายผิดกฎหมายข้อนี้หรือไม่

เจตนารมณ์ของการเขียนเรื่องนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อป้องกันหรือห้ามไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้ความเป็นเจ้าของสื่อ ใช้สื่อของตัวเล่นงาน กล่าวหา โจมตี บิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี ข่มเหง รังแก คู่แข่ง หรือเป็นเครื่องมือสร้างความนิยมให้ตัวเองโดยปราศจากความจริงหรือเกินเลยความเป็นจริง

ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบัญญัติและบังคับใช้กฎหมายเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างมีใจเป็นธรรม ทั้งด้านหลักการและความเป็นจริงในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะกับผู้ถูกใช้บังคับทุกกลุ่มซึ่งเป็นผู้ได้รับผล
กระทบโดยตรง

การใช้สื่อหรือความเป็นสื่อมวลชนเพื่อผลทางการเมืองยังมีประเด็นให้คิดอย่างจำแนกแยกแยะต่อไปอีกว่า ระหว่างความเป็นเจ้าของผู้ประกอบการธุรกิจสื่อ กับความเป็นเจ้าของสาร ซึ่งได้แก่นักวิชาชีพ ผู้ปฏิบัติงานสื่อมวลชนทุกระดับ เป็นผู้เผยแพร่เนื้อหาสาระข่าวสาร บทความวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของกิจการ แต่สาระที่ส่งออกไปส่งผลกระทบ เกิดผลได้ผลเสียระหว่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สองกลุ่มนี้ใครมีอิทธิพลมากน้อยกว่ากัน

ฝ่ายนักวิชาชีพควรอยู่ในกรอบข้อกฎหมายเดียวกันนี้ ต้องถูกจำกัดสิทธิในการประกอบอาชีพโดยห้ามสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ห้ามเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยหรือไม่

กรณีนี้เป็นอีกมุมหนึ่งที่น่าพิจารณา ในประเด็นความทับซ้อนของบทบาท และความทับซ้อนทางผลประโยชน์ ระหว่างความเป็นสื่อสาธารณะกับการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งต้องตรวจสอบ ควบคุม กำกับ ถ่วงดุลซึ่งกันและกัน

การวางหลักการและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมกำกับโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบ จนถึงกฎหมายอื่นๆ การกำกับโดยจริยธรรมวิชาชีพ การควบคุมกันเองโดยองค์กรนักวิชาชีพ ผ่านกลไกสมาคมหรือสภาวิชาชีพ และการกำกับโดยสังคม เป็นต้น

จะเป็นเครื่องมือทำให้การปฏิบัติของทุกฝ่าย ตั้งแต่การกล่าวโทษจนถึงการตัดสินลงโทษ มีแนวทางที่เป็นบรรทัดฐานกลาง นอกจากทำให้การปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติตนของแต่ละฝ่ายมีมาตรฐานแล้ว จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้ง การกลั่นแกล้งเพื่อผลทางการเมืองหรือทางด้านอื่นๆ อีกด้วย

ครับ การเมืองเรื่องการถือครองเป็นเจ้าของหุ้นสื่อมวลชนยังมีอีกบางมุมที่น่าขบคิด ขอเอาไว้ว่าต่อสัปดาห์หน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image