ระเบิด การเมือง : เนื่องแต่ ลักษณะ ต้องห้าม : คุณสมบัติ ผู้สมัคร

แม้ความเชื่อมั่นของ กกต.ที่จะประกาศรับรอง ส.ส. และประกาศรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในวันที่ 9 พฤษภาคม จะเป็นข้อกำหนดที่ค่อนข้างแน่ชัด

แน่ชัดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

แน่ชัดและจะนำไปสู่หลักประกันที่พรรคพลังประชารัฐจะเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการรวบรวมพรรคการเมืองเพื่อทะยานไปอยู่ในฐานะผู้จัดตั้งรัฐบาล

แต่สัญญาณ 1 ซึ่งระทึกอย่างยิ่ง

Advertisement

คือสัญญาณอันเนื่องแต่คำวินิจฉัยที่ 1076/2562 ของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตัดสิทธิการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สกลนคร เขต 2 ของพรรคอนาคตใหม่

เนื่องจากมีลักษณะ “ต้องห้าม” ขัดต่อ “กฎหมาย”

ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42(3) ที่เข้าข่ายมี “ลักษณะต้องห้าม”

Advertisement

นั่นเป็นเรื่องก่อนวันที่ 24 มีนาคม 2562

ที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงก็เมื่อมีข้อร้องเรียนและการตรวจสอบคุณสมบัติเดียวกันนี้ได้นำมาใช้กับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง

ไม่เพียงเพราะกรณีของ วี-ลัค มีเดีย เป็นเรื่องเก่าและปิดกิจการไปแล้ว ไม่เพียงเพราะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ทำธุรกรรมโอนหุ้นไปแล้วก่อนการสมัครรับเลือกตั้ง

หากอยู่ที่ว่า “ต้องห้าม” การถือหุ้นนั้นเป็นอย่างไร

เพราะในกรณีของ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด นั้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาร์ส เอ็นจิเรียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ด้านหลักคือประกอบกิจการก่อสร้าง

แต่ในการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้น ปรากฏวัตถุประสงค์หนึ่งคือ “ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ รับจัดทำสื่อโฆษณา สปอตโฆษณา เผยแพร่ข้อมูล” อยู่ด้วย ศาลจึงถือว่ามีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง

ทั้งๆ ที่นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อในทางเป็นจริง

จากกรณีของ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด จากกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั้นเองได้นำไปสู่ปรากฏการณ์อันเป็นผลสะเทือนตามมา

1 นักร้องได้ร้องเรียนในเรื่องนี้อย่างคึกคัก

ไม่เพียงแต่จะมีผู้สมัครที่สังกัดพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เท่านั้น

หากยังมีพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์

เท่าที่มีการร้องเรียนไปยัง กกต.น่าเชื่อว่าผู้สมัครที่มีบริษัทจดทะเบียนและมีวัตถุประสงค์ในการทำสื่อมากกว่า 100 บริษัท

รวมถึงที่เป็นกรรมการบริหารพรรค หากถือตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต่อ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด อย่างเคร่งครัดมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิแม้กระทั่งกรรมการบริหารพรรคเกือบทุกพรรค

ตรงนี้จะมีผลต่อคะแนนระบบบัญชีรายชื่อแน่นอน

คํายืนยันของ กกต.ที่จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 9 พฤษภาคม จึงก่อให้เกิดคำถามตามมา

เป็นคำถาม 1 ต่อกระบวนการคำนวณคะแนน

เป็นคำถาม 1 เป็นคะแนนจากพื้นฐานใด ในเมื่อหากถือเอาคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดก็น่าจะเกิดการพลิกผัน แปรเปลี่ยนแน่นอน

นี่คือระเบิดเวลา นี่คือระเบิดอันเนื่องแต่ “รัฐธรรมนูญ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image