เดินหน้าชน : การเมืองเริ่มงวด : โดย สัญญา รัตนสร้อย

สัปดาห์นี้นับเป็นอีกช่วงการเมือง ต้องจับตาใกล้ชิด

เริ่มจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เร่งเคลียร์เรื่องร้องเรียนให้มากที่สุด จากก่อนหน้าทยอยสอยทั้งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งว่าที่ ส.ส.มาแล้วหลายระลอก

นำไปสู่การประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ที่ล่าช้ามาเดือนเศษ

เริ่มจากเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.เขต

Advertisement

ไฮไลต์น่าจะเป็นวันที่ 8 พฤษภาคม กกต.ประกาศผลการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ส.ส.แต่ละส่วนจะเป็นเท่าไร สิ่งสำคัญคือต้องได้ ส.ส.รวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 หรือ 475 เสียง เพื่อเปิดประชุมสภา

ที่สำคัญมากกว่านั้น วันที่ 8 พฤษภาคม ยังเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องวุ่นๆ ของสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่

Advertisement

ผลออกมาอย่างไร ก็หนีไม่พ้นความวุ่นวายตามมา

ด้านหนึ่ง หากชี้ออกมาไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จะมีผลให้ กกต.เดินหน้าตามสูตรคำนวณที่เคยตั้งธงไว้ มีการพูดกันถึงจะกระจาย ส.ส.บัญชีรายชื่อไปยัง 27 พรรคการเมือง

ออกหน้านี้ มีพรรคการเมืองที่เรียกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จองกฐินฟ้องร้อง กกต.ไว้แล้ว

ด้านหนึ่ง หากชี้ออกมาว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะยุ่งไปถึงการประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันเดียวกัน

ขณะนี้นึกภาพไม่ออกเหมือนกัน กกต.จะไปต่ออย่างไร

และจะกระทบเส้นตาย 9 พฤษภาคม วันสุดท้ายที่ กกต.ต้องประกาศรับรองผลเลือกตั้งตามกรอบเวลา 150 วันหรือไม่

และมิต้องพูดถึงไทม์ไลน์ของรองนายกฯวิษณุ ให้ภาพภายหลังประกาศผลเลือกตั้ง 8 พฤษภาคม ที่ต้องได้ ส.ส.อย่างน้อยร้อยละ 95 ซึ่งจะมีผลถึงวันรัฐพิธีเปิดประชุมสภา ภายใน 15 วัน เพื่อเลือกประธานรัฐสภาและรองประธาน

รวมไปถึงการทูลเกล้าฯถวายรายชื่อ ส.ว.ภายใน 3 วันนับจากวันที่ 8 พฤษภาคม

ไม่แน่ว่า จะต้องขับเคลื่อนเลื่อนไหลออกไปอย่างไร

น่าสนใจกับเสียงสะท้อนภาคประชาชน ที่สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นประชาชน ในความคาดหวังต่อการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของ กกต. พบว่า ก่อนเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.08 คาดหวังกระบวนการและขั้นตอนของ กกต.มีความชัดเจน โปร่งใส ตรงไปตรงมา

แต่ภายหลังการเลือกตั้ง ผลสำรวจออกมากลุ่มตัวอย่างค่อนข้างผิดหวัง เพราะส่วนใหญ่ ร้อยละ 43.15 วิตกกังวลว่า กกต. ทำหน้าที่บกพร่อง ผิดพลาด ไม่โปร่งใส ผลคะแนนไม่ชัดเจน

ร้อยละ 41.09 ระบุว่าการประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต. ไม่น่าเชื่อถือ ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และร้อยละ 25.98 ระบุว่าการใช้สูตรคำนวณที่นั่ง ส.ส.ของ กกต. ไม่ได้รับการยอมรับ

เมื่อถามความเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นทางการเมือง ภายหลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ประชาชน ร้อยละ 45.20 มองว่ายังคงวุ่นวายเหมือนเดิม เพราะการเมืองไทยยังมีความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จ้องจับผิด โจมตีกันไปมา การแก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์มีอยู่ตลอด

ร้อยละ 36.56 ระบุว่า น่าจะวุ่นวายมากขึ้น เพราะกฎหมายไทยยังมีช่องโหว่ การบังคับใช้ไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน นำไปสู่การเรียกร้องต่อต้าน เกิดความขัดแย้งมากขึ้น

การเมืองไทยงวดขึ้น หากไม่ใช่สู่ข้อยุติ

แต่มุ่งหน้าวุ่นวาย ยุ่งเหยิง เข้าไปทุกที

สัญญา รัตนสร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image