ผู้เขียน | สุพัด ทีปะลา |
---|
นับตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ส. 24 มีนาคม ที่ผ่านมา เหลืออีก 14 วันก็จะครบ 3 เดือน
แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น
หลังจากที่ประชุมรัฐสภาลงคะแนนเลือก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 เป็นสมัยที่ 2 หลังควบตำแหน่งนี้มายาวนาน 5 ปี ภายใต้รัฐบาล คสช.
มีความคาดหวังว่าการจัดสรรโควต้ากระทรวง และรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมจะปิดดีลกันได้เร็วขึ้น
แต่ก็ยังมีเพียงความวุ่นวาย มีความไม่ลงตัวในการ
ยื้อแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีในกระทรวงเกรดเอ ของแกนนำบางกลุ่ม พปชร. กับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย
ภายในสัปดาห์นี้การจัดสรรโควต้ากระทรวง และตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ยังตกลงกันไม่ได้น่าจะได้ข้อยุติ
เพราะหากยังมีความขัดแย้ง ความไม่ลงตัวเช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีแน่ต่อภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของความมีเสถียรภาพ
ตามไทม์ไลน์ของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ภายหลังประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯ สภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้นำรายชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯถวาย จากนั้นรอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกลับลงมา นายกฯจะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล
จากนั้นจะส่งรายชื่อ ครม.ให้เลขาธิการ ครม.นำไปตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
การจัดสรรโควต้า กระทรวงและตำแหน่งรัฐมนตรี คราวนี้ยังฉายภาพเดิมๆ ของการจัดตั้งรัฐบาลผสมในอดีตที่ผ่านมาของการเมืองไทย
กระทรวงเกรด เอ ทั้ง พาณิชย์ คมนาคม มหาดไทย เกษตรฯ กลาโหม เป็นที่ต้องการของแต่ละพรรค
ในขณะที่กระทรวงด้านสังคมถูกจัดลำดับความสำคัญรองๆ ลงมาเป็นกระทรวงเกรด บี และซี
ตัวอย่างของกระทรวงศึกษาธิการ เห็นได้ค่อนข้างชัด แม้จะมีงบประมาณ 2-3 แสนล้านบาท แต่ถูกมองว่าเป็นงบเงินเดือนครู 1 แสนกว่าล้านบาท
แม้จะมีความสำคัญในการวางรากฐานของประชากรทางด้านการศึกษา แต่ก็เป็นเพียงกระทรวงเกรดบีเท่านั้น
“ภาวิช ทองโรจน์” อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอศ.) สะท้อนว่า “ที่ผ่านกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถูกมองข้ามมาตลอด แม้จะเป็นกระทรวงที่ใหญ่ อาจจะไม่มีใครอยากเข้ามาบริหารกระทรวงนี้ เพราะเป็นงานที่ยาก เกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมาก หากจะทำผลงานที่ออกมาเป็นรูปธรรมยาก
แม้ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพรรคการเมืองใด หรือใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีว่าการ อว. ผมอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้าใจปัญหาการศึกษา วางการศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาแก้ไขเป็นอันดับแรก ขอให้เลือกคนที่เข้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีให้ดี ต้องเป็นคนที่มีความรู้ เข้าใจการศึกษา พร้อมพัฒนาขับเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า”
ตลอดระยะเวลา 5 ปีของรัฐบาล คสช.แม้จะให้ความสำคัญกับการศึกษาค่อนข้างมาก
แต่ปัญหาหลักยังขาดคนเก่ง ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.
โฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ยังไม่ชัดว่าใครจะมาคั่วตำแหน่งนี้
แต่ถ้าหวังจะยกระดับพัฒนาการศึกษาไทย ต้องเฟ้นคนดี คนเก่ง เข้ามา
สุพัด ทีปะลา