‘สี จิ้นผิง’บิน‘เปียงยาง’กะทันหัน : ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

 

ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์-สี จิ้นผิง” ไม่ถึง 10 วัน “สี จิ้นผิง” เดินทางเยือน “เปียงยาง” พบกับ “คิม จองอึน” ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนืออย่างกะทันหัน

1 เยือน “เปียงยาง” วันที่ 21-22 มิถุนายน 2019

1 “โดนัลด์ ทรัมป์-สี จิ้นผิง” ซัมมิต วันที่
28-29 มิถุนายน 2019 ณ โอซากา ญี่ปุ่น
(หมายเหตุ: บทความเขียนวันที่ 23 มิถุนายน)

Advertisement

การเยือนเปียงยางอย่างกะทันหัน มีนัยสำคัญ ส่อให้เห็นในเชิงสัญลักษณ์ว่า ท่ามกลางภาวะแห่งความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ จีนต้องการเพิ่ม “ชิป” เสมอการเพิ่มต้นทุนเพื่อทำการเจรจาต่อรองกับสหรัฐในการประชุมขั้นสุดยอดในปลายเดือนมิถุนายน

รัฐบาลเปียงยางจัดพิธีต้อนรับที่เกรียงไกร อันมีประชาชนถึง 250,000 คน ต้อนรับตลอดทาง ไม่ว่าถนนหลวง ไม่ว่าถนนส่วนบุคล ไม่ว่าตรอกเล็กซอยน้อยเต็มไปด้วยป้ายที่มีข้อความว่า “มิตรภาพที่ทำลายมิได้” อันข้อความต้อนรับเป็นเพียง “วาทกรรม” ทางการเมือง

กรณีเป็นการ “ฟื้นฟู” ความสัมพันธไมตรีจีน-เกาหลีเหนือ

การเยือนเกาหลีเหนือของ “สี จิ้นผิง” ในครั้งนี้ห่างจากการเยือนของ “หู จิ่นเทา” อดีตประธานาธิบดีถึง 14 ปี อันเป็นห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์คุ้มดีคุ้มร้าย

ครั้นเมื่อ “คิม จองอึน” ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุด ก็พยายามเหินห่างจากจีน และประสงค์จะทำการเจรจาโดยตรงกับสหรัฐ ในเวลาเดียวกันก็ไม่พอใจที่จีนโน้มเอียงไปทางสหรัฐ กระทั่งประเทศจีนได้ร่วมกระบวนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหประชาชาติ เกาหลีเหนือทำการวิพากษ์จีนอย่างรุนแรง ในที่สุด ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีเหนือได้ตกต่ำสุดขีด

แต่หลังจากที่ “คิม จองอึน” ได้พบกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” 2 ครั้ง จึงได้ทราบถึง “ธาตุแท้” อันมิได้ทำให้เกิดความ “ราบรื่น” อย่างที่คิด จึงเป็นเหตุผลที่ “คิม จองอึน” หันกลับมาคืนดีกับจีน

เวลา 15 เดือนที่ผ่านมา “คิม จองอึน”
เยือนจีนถึง 4 ครั้ง เพื่อปรึกษาเรียนรู้ข้อราชการกับ “สี จิ้นผิง” ส่วน “สี จิ้นผิง” เป็นครั้งแรกที่เยือนเกาหลีเหนือและกะทันหันด้วย

“สี จิ้นผิง” ได้เยี่ยมชม “อนุสาวรีย์มิตรภาพจีน-เกาหลีเหนือ” ที่เปียงยางเป็นจุดสุดท้าย สวนที่ล้อมรอบอนุสาวรีย์ มีตัวเลขคริสตศักราชที่ค่อนข้างเตะตาคือ “1950 และ 1958”

1950 เป็นปีที่ประเทศจีนส่งทหารอาสาสมัครไปเกาหลีเหนือเพื่อรบกับทหารอเมริกัน

1958 เป็นปีที่ทหารอาสาสมัครจีนถอนออกจากเกาหลีเหนือ

หากปราศจากความช่วยเหลือของทหารจีน เกาหลีเหนือก็คงกลายเป็นทาสของสหรัฐไปแล้ว

การสู้รบครั้งนั้น ประเทศจีนต้องใช้ทหารอาสาสมัครถึง 520,000 คน มีทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ฉะนั้นจึงมีคำกล่าวที่ว่า “มิตรภาพจีน-เกาหลีเหนือ” เกิดจากการรวมตัวของหยดเลือด

เปียงยาง เพื่อให้ปรากฏภาพลักษณ์อันงดงามแห่งมิตรภาพ พิธีการต้อนรับ “สี จิ้นผิง” ครั้งนี้เป็นการใช้ทุนเดิมเงินเก่าและทุ่มสุดตัว

พิธีต้อนรับเริ่มตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคทำความเคารพ “สี จิ้นผิง” คนเรือนแสนโบกธงแสดงความยินดีต้อนรับ และการแสดงของขบวนพาเหรดอันเกี่ยวกับวัฒนธรรม
พื้นเมือง นอกจากนี้ ยังมีโปสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีข้อความ “ดีใจมากที่ได้พบคุณปู่สี”

การต้อนรับ “สี จิ้นผิง” ครั้งนี้ “คิม จองอึน”
เทหมดหน้าตัก

ดูประหนึ่งว่า คือ “สัญญาต่างตอบแทน” เพื่อต้องการให้ “สี จิ้นผิง” ใช้มาตรการแข็งกร้าวกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทั้งสองประเทศก็สามารถร่วมมือกันได้

การเยือนเกาหลีเหนือของ “สี จิ้นผิง” ครั้งนี้ ประชาคมโลก “สปอตไลต์” ไปที่ประเด็น “ปลอดอาวุธนิวเคลียร์” มากกว่าเรื่องอื่นใด

“สี จิ้นผิง” กล่าวกับ “คิม จองอึน” ว่า จีนเชื่อมั่นเกาหลีเหนือกำลังพยายามในเรื่องปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และแสดงเจตนาในการสนับสนุนการแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลีเหนือ อีกทั้งยินดีช่วยเหลือสนับสนุน การประนีประนอม และให้ความร่วมมือในการทำให้คาบสมุทรเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสร้างสรรค์และเป็นรูปธรรม

แต่สื่อของจีนรายงานว่า เกาหลีเหนือมิได้แสดงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า “คาบสมุทรปลอดอาวุธนิวเคลียร์” แต่ก็ยินดีที่จะทำการผลักดันตามขั้นตอน เพื่อให้บรรลุผล

เป็นที่ประจักษ์ว่า ประเด็นปัญหาปลอดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทร จีนและเกาหลีเหนือยังไม่มีการรับรู้ร่วมกัน แต่เกาหลีเหนือก็มีความยินดีที่จะทำการแก้ปัญหา และชื่นชมประเทศจีนอันเกี่ยวแก่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ อีกทั้งยินดีประสานงานกับจีนอย่างต่อเนื่องและตลอดไป

กรณีจึงฟังได้ว่า เกาหลีเหนือเปิดเผยการรับรองของจีนต่อสหรัฐในประเด็นปลอดอาวุธนิวเคลียร์ เป็นการเพิ่ม “ชิป” ให้แก่ “สี จิ้นผิง”
เต็มหน้าตัก เป็นต้นทุนสำหรับเจรจากับ “ทรัมป์”

น่าจะเป็นสาเหตุและเป้าหมายของ “สี จิ้นผิง” ที่เยือนเปียงยางอย่าง “กะทันหัน” ก่อนการประชุมสุดยอด “จี20” เพื่อผลประโยชน์บางประการในการเจรจาทวิภาคีกับ “โดนัลด์ ทรัมป์”

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image