สถานีคิดเลขที่ 12 : อีซี่ พาส! โดย จำลอง ดอกปิก

สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบต่อสัมปทาน แลกจ่ายค่าโง่ทางด่วน 415:25 เสียง มีผู้แทนงดออกเสียง 20 คน

การโหวตด้วยเสียงสภาท่วมท้น ทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเห็นเหมือนกันเช่นนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ในยุคที่การเมืองแบ่งออกเป็น 2 ขั้วชัดเจน ยากที่เห็นพ้องต้องกัน

จริงอยู่ แม้สภาเห็นชอบ เสนอรายงาน ข้อเสนอแนะ รวมถึงข้อสังเกตไปยัง ครม. มิได้มีผลผูกมัดรัฐบาล ต้องดำเนินการตามมติ

รัฐบาลอาจเห็นตาม-เห็นต่าง ใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ

Advertisement

แต่การที่ฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายนิติบัญญัติ เห็นชอบ เท่ากับ สร้างความชอบธรรมให้กับการต่อสัมปทาน ให้กับฝ่ายรัฐบาล

ทั้งนี้เนื่องจาก รัฐโน้มเอียงต่อสัญญาสัมปทานให้กับผู้ประกอบการ คู่พิพาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ ส.ส.รวมตัวกันยื่นญัตติต่อสภา ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา
การขยายสัญญาสัมปทานทางด่วน และรถไฟฟ้า (บีทีเอส)

โดยมีเรื่องแรกเป็นวาระหลัก

Advertisement

จับน้ำเสียง ส.ส.ในการอภิปราย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่พูดโน้มน้าวสภา ตั้งคณะกรรมาธิการฯ ใช้เวลายืดยาวกว่า 4 ชั่วโมง ต่างชี้ไปในทางไม่เห็นด้วย ที่บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีมติต่อสัญญาสัมปทานให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม อีก 30 ปี ใน 3 โครงการ เพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาท 137,000 ล้านบาท เนื่องจากรัฐเสียเปรียบ ประชาชนเสียผลประโยชน์

บ้างขู่ว่าถ้าเป็นฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน บ้างระบุ กรณีนี้ก็มีการเก็บเงินจนคุ้มทุนแล้ว รัฐก็ไม่ควรต้องต่อสัมปทานให้อีก ทั้งยังตั้งคำถามว่า ถ้าไม่ต่อสัญญาให้ รัฐจะต้องจ่ายค่าโง่จากการผิดสัญญา 137,000 ล้านบาท ถามว่าถูกต้องหรือไม่ ค่าโง่มักจะมาพร้อมกับการทำสัญญาที่ส่อไปในทางทุจริตตั้งแต่แรก

ที่ประชุมวันนั้นมีมติตั้งคณะกรรมาธิการฯขึ้นมาศึกษา

ผลการพิจารณา คณะกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ เห็นว่า ควรขยายสัมปทานทางด่วนเพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมดระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

เมื่อนำเข้าที่ประชุมวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบรายงานคณะกรรมาธิการฯ ด้วยเสียง 415:25 ดังกล่าว

ย้อนกลับไปในช่วงการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ก็มีเรื่องวุ่นวายต่อ

ส.ส.แย่งพระเอก-ผู้ร้าย คล้ายต้องการโชว์ตัวปั่นหุ้นให้เข้าตา ว่าเป็นผู้มีบทบาทตัวจริง

กระทั่งการพิจารณารายงานผลการศึกษาฯ นัดที่มีมติเห็นชอบก็มี ส.ส.ลุกขึ้นอภิปรายว่า มีข่าวลือว่ากรรมาธิการมีส่วนได้เสียกับการต่อสัญญาสัมปทาน ด่าเป็นเรื่องเลว ชั่วที่สุด นำมาซึ่งการต่อปากต่อคำของ ส.ส.

หนังตัวอย่างในสภา สะท้อนภาพเบื้องหน้า เบื้องหลังการทำงานของ ส.ส.และอะไรต่อมิอะไรมากมาย

เรื่องรู้ไส้ รู้พุง จอมตบ จบลงด้วยดีตามวิถีประชาธิปไตย

ทิ้งไว้แต่ปริศนา ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายตรวจสอบ สามัคคีการันตี ต่อขยายสัมปทาน

ยอมยกธงแต่ต้นแค่เรื่องคาดการณ์ ที่ยังไม่เกิดขึ้น จะแพ้คดีที่เหลือหรือไม่ แพ้หมดทุกคดีจริงหรือไม่

ขณะที่โครงการอื่น ตัดสินถึงที่สุดแล้ว แต่รัฐก็ยังดิ้น หาช่องทาง รักษาผลประโยชน์รัฐ

แต่เรื่องนี้ กลับท่าดีทีเหลว

รัฐบาล ฝ่ายค้าน พร้อมใจ ยกสารพัดเหตุผล ดึงปมพิพาทเข้าด่านตรวจ เนื่องจากเห็นพิรุธ ความรีบเร่ง ไม่ปกติ

แต่กลับยกไม้กั้น ไฟเขียวผ่านตลอดชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

ขึ้นชื่อว่าทางด่วน ชื่อบอกยี่ห้อไม่ธรรมดา

แต่เป็นทางพิเศษ มีด่านเก็บค่าผ่านทาง- ส.ส.ก็ไม่ฟรี

ด้วยเหตุนี้กระมัง ถึงได้แฉกันลั่นห้องประชุมสภา

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image