| ผู้เขียน | ทรงพร ศรีสุวรรณ |
|---|
ซินแสชื่อดัง ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำนายว่า “รัฐบาลประยุทธ์ 2/1” จะผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้
พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี
ทำให้เป็น “3 เสาหลัก” ที่คุ้มบ้านเมืองอยู่
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2555 ที่อดีตพระพุทธะอิสระ จัดให้มีพิธีเททองหล่อพระเกตุมาลาพระนาคปรก “ปกเกล้า ปกแผ่นดิน” ก็มีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ขณะนั้นเป็น ผบ.ทบ. และอดีต ผบ.ทบ.อีก 3 คนคือ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ มาร่วมพิธี
อดีตพระพุทธะอิสระให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการเชิญมาให้เป็นฐานอำนาจ ที่จะข่มคนที่คิดไม่ดี ทำไม่ดี พูดไม่ดีต่อบ้านต่อเมือง
โดย พล.อ.ประยุทธ์ นั่งประจำทิศตะวันออกขององค์พระในการประกอบพิธี พล.อ.ประวิตร นั่งทิศตะวันตก พล.อ.อนุพงษ์ นั่งทิศเหนือ และ พล.อ.สมทัต นั่งทิศใต้
ซึ่งในระหว่างพิธี ก็เกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้เตาหลอม ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา
และหากย้อนกลับไปอีก ก็จะเห็นสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นของ “3 เสาหลัก” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน
พล.อ.ประวิตร จบ จปร.รุ่นที่ 17 พล.อ.อนุพงษ์ จบ จปร.รุ่นที่ 21 และ พล.อ.ประยุทธ์ จบ จปร.รุ่นที่ 23 เป็น 3 นายทหารบูรพาพยัคฆ์ ที่เคยอยู่บ้านพักนายทหารหลังเดียวกัน ในกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี
โดยขณะนั้น “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ยศ ร.อ. “อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ยศ ร.ท. และ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยศ ร.ต.
พล.อ.ประวิตร จึงเป็นพี่ใหญ่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นพี่รอง และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นน้องเล็ก
และ “3 เสาหลัก” ก็ก้าวหน้าในอาชีพรับราชการมาเป็นลำดับ จนเป็น ผบ.ทบ.ทั้ง 3 คน
พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ.คนที่ 34 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2548
พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. คนที่ 36 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึง 30 กันยายน 2553
พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. คนที่ 37 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึง 30 กันยายน 2557
ความผูกพันของ “3 เสาหลัก” ตั้งแต่วันนั้น จึงถึงปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
พล.อ.ประยุทธ์ ได้เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ใหญ่ พี่รอง และน้องเล็ก ในระหว่างเป็นประธานรับฟังการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61, วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 60, วิทยาลัยการทัพบกชุดที่ 64, วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 51 และวิทยาลัยการทัพอากาศรุ่นที่ 53 ตอนหนึ่งว่า
“กับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งผมมีวันนี้ได้ เพราะท่านสอนผมมา ไม่มีใครเข้าใจหรอก ถ้าเราไม่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาแบบผมกับท่าน อยู่ชายแดนมาด้วยกัน ผมก็หนุ่มท่านก็หนุ่ม มีความห่วงใยที่ดีให้กัน มีความผูกพันและร่วมชะตากรรมกันมา คนที่ 2 คือ พี่ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ ผมถึงมายืนจุดนี้ ก็พิสูจน์ตัวกันมานาน ท่านก็ไว้ใจผม นอนบ้านเดียวกันมา ทั้งหมดความสัมพันธ์นี้มากกว่า 40 ปี ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์หรือตอบแทนอะไรกันทั้งสิ้น”
เป็นความผูกพันของ “3 เสาหลัก” ที่ไม่สามารถทิ้งกันได้ และอาจจะต้องกอดคอกันเหนื่อยไปอีก 8 ปี เพราะ “ซินแสภาณุวัฒน์” ทำนายว่า ดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ ในภาพรวมนั้นดี และจะอยู่ดูแลบ้านเมืองอีกยาวไปอีก 2 สมัย
ซึ่งไม่เฉพาะ “3 เสาหลัก” เท่านั้น หลายคนก็เหนื่อยตามไปด้วย
ทรงพร ศรีสุวรรณ
