เดินหน้าชน วันที่ 8 ตุลาคม 2562 : โรงขยะ กทม.จมโคลน : โดย สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
ตะเกียกตะกายลุยโคลนเข็นโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช และศูนย์หนองแขม ของ กทม. โครงการละ 6,570 ล้านบาท รวม 2 โครงการ มูลค่า 13,140 ล้านบาท
เป็นโคลนที่มีกลิ่นตุๆ มาตั้งแต่การกำหนดทีโออาร์ หลักเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆ ที่ส่อว่าจะเอื้อบางราย
ทั้งเกณฑ์การให้คะแนนด้านเทคนิคมากถึง 90% ส่วนเรื่องราคาคิดแค่ 10% และการให้คะแนนส่วนใหญ่ขึ้นกับดุลพินิจของกรรมการ
ราคากลางค่าจ้างกำจัดขยะก็สูงถึง 900 บาทต่อตันต่อวัน มากกว่าที่ จ.ภูเก็ต 3 เท่าตัว และแพงกว่า จ.ขอนแก่น เกือบ 2 เท่าตัว
หรือกรณีเอาบริษัทที่ขายปลีก-ขายส่งบุหรี่ มาให้ข้อมูลเรื่องราคากลาง และไม่เคยเป็นคู่สัญญารับจ้างงานระบบเตาเผาขยะจากหน่วยงานรัฐแห่งใดเลย
เพียงแค่มาเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทเมื่อ 17 ตุลาคม 2561 ว่า “ผลิต-จำหน่ายไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทน เช่น บริการกำจัดมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ด้วยเตาเผามูลฝอย” และมาเพิ่มวัตถุประสงค์ไม่ถึง 1 เดือนก่อนจะประกาศร่างทีโออาร์… อย่างนี้ก็ได้เหรอ
แต่เหมือนผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีธงอยู่แล้ว เลยลุยโคลนต่อ กระทั่ง 29 สิงหาคม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. (ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งไม่นาน แทนนายจักกพันธุ์ ผิวงาม ที่ลาออกไปก่อน ตามด้วยนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ที่ไขก๊อกตามมาติดๆ เพราะไม่อยากลุยโคลนด้วย) ลงนามประกาศแจ้งผลคัดเลือกผู้ชนะการประมูล โป๊ะเชะ…ตามที่คาดกัน คือ
1.บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ศูนย์หนองแขม เสนอราคา 5,657.5 ล้านบาท
2.บริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ได้ที่ศูนย์อ่อนนุช เสนอราคา 5,759.7 ล้านบาท
หลังประกาศผล ที่ศูนย์หนองแขมมีผู้ยื่นอุทธรณ์ 4 ราย จาก 5 รายที่ร่วมประกวดราคา ส่วนที่ศูนย์อ่อนนุชมีผู้ยื่นอุทธรณ์ 7 ราย จาก 8 รายที่ร่วมประมูล
ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ก่อนเสนอ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.พิจารณา …ขอแทงหวยล่วงหน้าว่า “อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น”
แต่กระนั้น ก็ยังหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาให้ดีๆ อีกครั้งก่อนจะลุยโคลนเหม็นๆ กันต่อไป ด้วยมีข้อพิรุธอยู่หลายปม
ทั้งบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ที่เพิ่งจดทะเบียนโดยเปลี่ยนชื่อจากบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (โคราช) จำกัด เมื่อ 13 ธันวาคม 2561 และเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 5 ล้านบาท เป็น 755 ล้านบาท หลังมีการเผยแพร่ร่างทีโออาร์ ผ่านเว็บไซต์ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และเปิดรับฟังคำวิจารณ์ เมื่อ 13-16 พฤศจิกายน 2561
ที่สำคัญคือบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ตั้งมายังไม่ถึง 1 ปี แล้วจะมีผลงานการกำจัดขยะระบบเตาเผาจากไหนมายื่นประกวดราคา ดังนั้น ไม่น่าจะมีคุณสมบัติ
ขณะที่ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัทที่ชนะการประกวดราคาเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด มีบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 30,200,000 หุ้น บริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (ประเทศไทย) ถือหุ้น 45,299,999 หุ้น และนายเหอ หนิง ถือ 1 หุ้น
หากบริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ที่ไม่มีผลงาน แล้วไปเอาผลงานของบริษัท ซีแอนด์จีฯ มายื่นประกวดราคาจะทำได้ก็ต้องเป็นลักษณะ “กิจการร่วมค้า” แล้วไปจดทะเบียนใหม่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
แต่บริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด ยื่นประกวดราคาในนามบริษัทเอง จึงไม่น่าจะนำผลงานของผู้ถือหุ้นมาอ้างได้
หากทำได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมีการจดทะเบียนกิจการร่วมค้า เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่ผิด และน่าจะขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯด้วยซ้ำ
ก็ต้องรอดูว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะลุยโคลนหึ่งๆ นี้ต่อจนถูกโคลนดูดจมไปหรือไม่
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
