ความสำคัญของซิกข์ต่ออินเดียและปากีสถาน : โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

เมื่อ 72 ปีที่แล้วอังกฤษมอบเอกราชแก่อินเดียและให้กำเนิดชาติมุสลิมที่แยกออกมาอินเดียมีชื่อว่า ปากีสถาน การแบ่งแยกชาติครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์ของประวัติศาสตร์การนองเลือดครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียใต้ มีคนตายมากกว่าครึ่งล้านคน และทำให้อินเดียกับปากีสถานเป็นศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สาเหตุหลักเนื่องจากการแก่งแย่งแคว้นแคชเมียร์ซึ่งเป็นแคว้นตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของอินเดียเป็นหลัก ทำให้สองชาติทำสงครามกันถึง 4 ครั้ง แล้วจนกระทั่งปัจจุบันทั้งอินเดียและปากีสถานต่างก็มีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งคู่หากเกิดสงครามเต็มรูปแบบจริงๆ ก็จะสร้างความพินาศฉิบหายอย่างใหญ่หลวงในภูมิภาคเอเชียใต้อย่างไม่ต้องสงสัย

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีนี้เอง กองกำลังติดอาวุธ เจชี โมฮัมเหม็ด ในปากีสถาน ประกาศตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการส่งคนเข้าโจมตีอินเดียด้วยระเบิดพลีชีพในรถยนต์ที่พุ่งชนรถบรรทุกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเสริมทหารของอินเดียในเขตปุลวามา แคว้นแคชเมียร์ สังหารเหยื่อถึง 44 ราย เป็นจำนวนสูงสุดในช่วงหลายสิบปีมานี้

จากนั้นอีก 12 วันต่อมา อินเดียได้ส่งฝูงบินรบโจมตีทางอากาศแก้แค้น โดยระบุว่ามีเป้าหมายถล่มค่ายฝึกของพวกก่อการร้ายในดินแดนส่วนลึกของปากีสถาน ดังนั้น ในวันต่อมา เครื่องบินรบของปากีสถานได้ข้ามเขตแดนเข้าสู่น่านฟ้าของอินเดีย จนเกิดการประจัญบานกันทางอากาศ ทำให้มีเครื่องบินรบอินเดีย 1 ลำ ถูกยิงตกและนักบินอินเดียถูกทางการปากีสถานจับตัวไว้ได้ แต่เป็นที่น่ายินดีที่ทางการปากีสถานได้ส่งตัวนักบินรบชาวอินเดียและยังตกลงที่จะเปิดฉนวนคาร์ตาร์ปุระ เพื่อเปิดทางให้นักแสวงบุญชาวซิกข์จากอินเดียเดินทางเยือนโบสถ์คุรุทวาราดาบาร์ ซาฮิบ อันเป็นที่อยู่สุดท้ายของคุรุนานัก ศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาซิกข์ที่ตั้งลึกเข้าไปในปากีสถานเพียง 3 กิโลเมตร จากพรมแดนของประเทศอินเดียอยู่ในคาร์ตาร์ปุระของปากีสถาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิด 550 ปีของคุรุนานักอีกด้วย อันเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพระหว่าง 2 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งคู่

ครับ ! ศาสนาซิกข์สำคัญขนาดนี้เชียวนะครับและความเป็นมาของศาสนาซิกข์มีดังนี้

Advertisement

เมื่อ พ.ศ.2012 อินเดียได้มีศาสนาใหม่เพิ่มขึ้นมาและเป็นที่รู้จักกันดีในนามของศาสนาซิกข์ มีศาสดาคนแรกเรียกว่า คุรุนานัก ผู้มีประวัติที่น่าสนใจ เพราะเดิมท่านนับถือศาสนาฮินดูที่นับถือพระเจ้าเยอะแยะหลายองค์มาก่อน ต่อมาได้ศึกษาถึงศาสนาอิสลามที่นับถือพระเจ้าองค์เดียว ต่อมานานักได้รับปรากฏการณ์ทางจิต ว่ามีผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งให้ดื่มน้ำอมฤต และบอกว่าให้นานักทำให้โลกสะอาดโดยเป็นผู้มีเมตตา เป็นผู้สะอาด ทำใจเป็นสมาธิ และให้นานักเป็นคุรุ (ครู) ของคนทั้งหลาย หลังจากนั้นคุรุนานักก็สละสมบัติส่วนตัวทั้งหมด ท่องเที่ยวไปด้วยเครื่องแต่งกายชุดเดียว โดยคุรุนานักมุ่งแก้ไขความขัดแย้งทุกทางด้วยการยอมตัวเป็นทั้งฮินดูและมุสลิมเพื่อน้อมนำศาสนิกชนของทั้งสองฝ่ายให้ได้คติเป็นกลาง ท่านสอนว่าซิกข์เป็นศาสนาของคนทั้งหลาย พระเจ้าเป็นผู้ปราศจากภัย ปราศจากเวร เป็นผู้สร้างไม่ใช่เป็นผู้ทำลาย ไม่มีพระเจ้าสำหรับชาวมุสลิม ไม่มีพระเจ้าสำหรับชาวฮินดู แต่มีพระเจ้าหนึ่งเดียว ผู้เป็นเจ้าโลก ไม่โปรดให้ถือชนชั้นวรรณะ และมีความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง พระเจ้าไม่มีความเกลียด ไม่มีการแช่งสาป เหมือนพระเจ้าองค์อื่น ในขณะที่ชาวฮินดูกับมุสลิมวิวาทกันด้วยเรื่องเชื้อชาติและศาสนา ท่านกลับมุ่งมั่นให้ฮินดูกับมุสลิมเลิกรังเกียจเดียดฉันท์กัน

ดังนั้น จึงเกิดศาสนาซิกข์ขึ้นเป็นศาสนาใหม่ที่มีอายุเพียง 500 ปีเศษ เป็นศาสนาที่มีการผสมผสานกันระหว่างศาสนาฮินดูกับศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่แคว้นปัญจาปที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน ซึ่งชาวซิกข์ต้องเป็นนักรบเพื่อป้องกันตนจากศาสนาอื่นและทำการรบกับอังกฤษหลายครั้ง จนทางอังกฤษยอมรับนับถือความเป็นทหารที่กล้าหาญของชาวซิกข์

จักรวรรดิอังกฤษที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้นั้นจำเป็นต้องต้องมีกำลังทหารอันมหึมา ซึ่งอังกฤษต้องใช้ทหารรับจ้างจากอาณานิคมอินเดียเข้าเป็นทหารรับจ้าง ซึ่งหากปราศจากทหารรับจ้างชาวอินเดีย (และเนปาล) แล้ว อังกฤษก็คงไม่สามารถดำรงสถานะของมหาอำนาจอยู่ในโลกนี้ได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทหารรับจ้างชาวอินเดียอยู่ในกองทัพอังกฤษมากกว่า 2.5 ล้านคนเลยทีเดียว เดิมทหารรับจ้างชาวอินเดียที่เป็นชาวฮินดูและมุสลิม (เรียกว่า “ทหารซีปอย”) มาฝึกแบบทหารยุโรป เพื่อทำการป้องกันและรบรุกกับศัตรูคือบริษัทการค้าของประเทศต่างๆ และบรรดาผู้ปกครองดินแดนต่างๆ ในอินเดีย ซึ่งมีราชวงศ์โมกุลโดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษรบได้เก่งมากจนได้ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ของอินเดีย แต่ต่อมาใน พ.ศ.2400 ทหารซีปอยก่อกบฏขึ้น จนรัฐบาลอังกฤษต้องเข้ามาปราบปรามและยึดบริษัทอินเดียตะวันออก รวมทั้งได้ทำการปฏิรูปเหล่าทหารรับจ้างอินเดียเสียใหม่ ในปี พ.ศ.2401 จึงเริ่มมีการรับสมัครทหารชาวซิกข์และชาวกูรข่ากันขนานใหญ่

Advertisement

โดยต่อมาทหารชาวซิกข์ก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตและเป็นกำลังสำคัญในกองทัพประเทศอินเดียในปัจจุบัน ประมาณว่าชาวซิกข์ในอินเดียมีประชากรประมาณ 23 ล้านคน ไม่ถึง 3% ของประชากรอินเดียทั้งหมด แต่นายทหารที่เป็นชาวซิกข์นั้นมีถึง 20% ในกองทัพอินเดีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image