สถานีคิดเลขที่ 12 : ประเทศไทย4.0 โดย จำลอง ดอกปิก

การตัดสินคดีหุ้นสื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในทางการเมือง ดูคล้ายกับ ขับภาพรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐให้ดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เมื่อเสี้ยนหนามแหลมคมถูกขจัดพ้นทาง

‘อนาคตใหม่’ เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านอันดับสอง รองจากพรรคเพื่อไทยก็จริง

แต่เป็นพรรคการเมืองใหม่แรงจัด แนวทางต่อสู้ชัดเจนเป็นที่ยิ่ง ฉายแววเติบใหญ่ เป็นคู่แข่งสำคัญของทุกพรรคการเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง หรือแม้แต่พรรครัฐบาล โดยเฉพาะพลังประชารัฐ

Advertisement

หากอนาคตใหม่ไม่มีอนาคต จากปฐมบทคดีแรก อันปูทางนำสู่คดีที่สอง ว่าด้วยฐานความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 ที่ กกต.อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ เพื่อตั้งเรื่องไต่สวน ในคดีที่หากในบั้นปลาย ท้ายที่สุดแล้ว ผลออกมาเป็นลบ โทษมีทั้งปรับจำคุก รวมถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี และคดีที่สาม ว่าด้วยการยุบพรรค ที่คาดหมายว่าแม้ดูบทบัญญัติเหตุแห่งการยุบพรรคอาจไม่เข้าข่าย แต่ฟันธงได้ว่าอย่างไรเสีย คงมีผู้ยื่นร้อง โยงเข้าลักษณะเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค อย่างมิต้องสงสัย

ถ้าสุดท้ายแล้ว ชะตากรรมอนาคตใหม่เป็นไปตามคำทำนาย ร่ำลือ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
การเลือกตั้งทั่วไป อนาคตใหม่ถูกลบออกจากสนาม และไม่มีธนาธร ที่ถึงพร้อมทั้งคุณสมบัติ ทุนรอน

เส้นทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ของพลังประชารัฐก็ย่อมสดใส เนื่องจากเพื่อไทยนั้น ดูนับวันถดถอย โรยรา พลังประชารัฐรู้ทางสกัดขัดขวาง อีกทั้งกติกาเกื้อหนุนมี ส.ว.เป็นทุนสำรอง และเขียนไว้ เป็นใจมิให้ชนะห่างพรรคเดียว

แต่ถึงแม้ในทางการเมือง คู่แข่ง มีอันเป็นไป ล้มหายตายจาก

คล้ายกับว่า ไม่มีพรรคใด มีรัศมีเทียมทัดพอแข่งสู้ เขย่าบังลังก์พลังประชารัฐได้

แต่ในทางการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีผลต่อความนิยม คะแนนเสียงอย่างแท้จริงนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ยังต้องพิสูจน์ตัว ให้ประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าฝากผีฝากไข้ได้

การที่คู่แข่งง่อยเปลี้ยเสียขา มิได้เป็นหลักประกันเส้นทางการเข้าสู่อำนาจโรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใดเลย

ทั้ง 2 ขา ต้องประกอบเข้ากัน ทั้งการเมือง การบริหาราชการแผ่นดิน จึงจะสามารถเอาชนะ เข้าไปนั่งในใจประชาชนได้

อย่าได้ลืมเป็นอันขาดว่า แม้ดูเหมือนประชาชนไม่มีทางเลือก

แต่ในทางเลือกอันน้อยนิดนั้น ก็ยังมีทางเลือก ตัวเลือกที่อาจมิใช่ชื่อ ‘พลังประชารัฐ’ หากแพ้ภัยตัวเอง

อันที่จริงแล้ว สายงานบริหาร เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างคะแนนนิยม แต่การเมืองที่มักเรียก ประชดประชันกันว่า แบบไทยๆ นั้น จะว่ารัฐบาลมองข้ามก็ไม่เชิงนัก จะว่าไร้ซึ่งความสามารถในการบริหารจัดการ ก็ดูหมิ่นแคลน แรงเกินไป

แต่ก็ใช่ว่าไม่มี

มีบ้างเหมือนกัน พรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญพยายามยกระดับการแข่งขัน พัฒนาการทางการเมือง

ยกระดับจากสนามเลือกตั้ง มิให้จำกัดอยู่แต่ภายในคูหาเท่านั้น ยังขยายเข้าสู่บริบทของการแข่งขันอีกระดับ นั่นคือแปรนโยบาย ที่ใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง มาเป็นรูปธรรมการปฏิบัติ แผนงานรัฐบาล ในการลงทุน การพัฒนา แก้ปัญหาประเทศ
ด้านต่างๆ อย่างจริงจัง

แต่พัฒนาการ การแข่งขันด้วยวิสัยทัศน์ นโยบาย แข่งขันบริหาร ครองใจประชาชน การเมืองแบบสมัยใหม่ ก็ถูกล้มไปด้วยการเมืองเก่า

การเมืองใหม่ที่ก่อกำเนิดในอีกแพลตฟอร์มใหม่ ที่ดูเหมือนก้าวหน้า คัดง้างเชิงโครงสร้าง เสนอในสิ่งที่ใหม่กว่าอีกลำดับขั้น ก็ถูกล้มไปด้วยการเมืองแบบเก่า

พัฒนาการทางการเมืองของไทย จึงไม่เพียงแต่ย่ำเท้า สะดุดหยุดอยู่

หากแต่คร่ำครึล้าหลัง ไม่แข่งขัน แต่มุ่งเน้นประหัตประหาร ลบล้างออกจากสารบบอย่างเป็นด้านหลักอีกต่างหาก

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image