ความตายจากอาการซึมเศร้าในวงการบันเทิงเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งของไทยและเกาหลีใต้
กรณีของไทย ข่าวการจบชีวิตตนเองของนักแสดงชายและนักร้องชาย 2 คนในปีนี้ เน้นไปที่เรื่องสุขภาพจิต ความบอบช้ำทางจิตใจของตัวบุคคล มากกว่าการมองภาพรวมทางสังคมแบบเกาหลี
อย่างไรก็ตาม กรณีศึกษาจากนักแสดงของไทยที่เป็นข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า มีทั้งผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการให้คนอื่นเห็น หรืออาจพยายามจบชีวิตตนเองมาแล้วหลายครั้ง
คล้ายกับข่าวผู้ป่วยซึมเศร้าอื่นๆ ที่น่าสังเกตว่ามีมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสังคม จนทำใจให้เข้มแข็งต่อไปไม่ได้
กรณีเกาหลี เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ของวงการและแตกหัวข้อการถกเถียงหลายเรื่อง เนื่องจากนักร้องสาวเคป๊อป 2 คนที่จบชีวิตตนเอง มีชื่อเสียงมาก เคยตกเป็นข่าวหรือเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้าโศกนาฏกรรม
ส่วนดาราดาวรุ่งชายถูกพบเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน คาดว่าเป็นอีกหนึ่งรายที่มีต้นตอมาจากโรคซึมเศร้า ตอกย้ำแรงกดดันทางสังคมและวัฒนธรรมของเกาหลีเอง เคป๊อปเกาหลีเป็นวัฒนธรรมและการส่งออกความบันเทิงใหญ่ของเกาหลีใต้ ชื่อเสียงของนักร้องเกาหลีไม่เพียงกระจายในเอเชีย แต่ยังขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆของโลก รวมถึงอเมริกาเหนือและยุโรป
เมื่อดังมากๆ ก็ยิ่งกดดันมาก การจะปั้นใครมาเป็นดารานักร้องจึงเป็นการลงทุนใหญ่ทั้งของตัวบุคคลและของบริษัทธุรกิจยักษ์ใหญ่
ชีวิตของคนคนนั้นจึงถูกกำหนดด้วยตารางการซ้อมเต้น ซ้อมแสดง อาหารการกิน ศัลยกรรมความงาม การฝึกบุคลิก ฯลฯ ให้ดูเป๊ะ สมบูรณ์แบบไปทุกเรื่อง
บางคนต้องทำงานวันละ 16 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ทำให้เวลาพักผ่อนและสำรวจจิตใจตัวเองมีไม่มาก
ซีเอ็นเอ็น สื่อดังของอเมริกา ตั้งข้อสังเกตว่า อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีกดดันให้ดารานักร้องเหล่านี้ต้องแสดงออกเฉพาะด้านที่มีความสุขเท่านั้น
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
กรณีของ คู ฮารา และ ซอลลี มีลักษณะคล้ายกันตรงที่เป็นผู้หญิงกล้าพูด ในที่นี้คือพูดตามที่คิด พูดถึงปัญหาสังคม และพูดสิ่งที่ทำผิดพลาดในชีวิต
อย่างซอลลีพูดสนับสนุนการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ส่วนคู ฮารา ฟ้องร้องดำเนินคดีกับแฟนเก่าที่ขู่จะเอาคลิปสวาทของเธอมาเผยแพร่ รวมถึงกล้าบอกว่าตนเองป่วยโรคซึมเศร้าด้วย
การแสดงออกของสาวทั้งสองมีคนกลุ่มหนึ่งไม่ชอบใจ และวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสองเสียๆ หายๆ เกิดเป็นประเด็นที่ทั้งสองถูกบูลลี่ หรือรุมรังแกด้วยถ้อยคำหยามเหยียดเกลียดชังทางโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นข้อสันนิษฐานหนึ่งว่าเป็นสาเหตุซ้ำเติมอาการซึมเศร้า
ความตายของทั้งสอง จึงเหมือนการเปิดแผลวงการบันเทิงของเกาหลีอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์ทำนองนี้ซาไปพักหนึ่ง
และยังทำให้เกาหลีหวนกลับมาพูดถึงปมที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อ ทั้งด้านวัตถุทางเพศ และสถานะที่ด้อยกว่า ในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
เมื่อเทียบกับสังคมไทยแล้ว แรงกดดันนี้มีน้อยกว่า แต่คงต้องช่วยกันระมัดระวัง โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ของไทยที่เป็นสนามการแสดงความคิดเห็นที่ดุเดือด
ไม่ให้กลายเป็นด้านมืดจนเกินไป
ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์