หน้า 2 : ภาครัฐอุ้ม‘ท่องเที่ยว’ งัดมาตรการสู้พิษโคโรนา

หมายเหตุความเห็นต่อกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เห็นชอบมาตรการการบรรเทาผลกระทบภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในเหตุการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา อาทิ ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินลิตรละ 4.726 บาท เหลือ 0.20 บาท ลดหย่อนภาษีผู้ประกอบการที่ไปจัดงานสัมมนาหรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัด นำค่าใช้จ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สนับสนุนการปรับปรุงกิจการผู้ประกอบการกลุ่มโรงแรมที่พัก นำมาหักรายจ่ายเงินได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง และขยายเวลาการยื่นแบบชำระภาษี ภ.ง.ด. 90-91 ถึง มิ.ย.2563 เป็นต้น

ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

ต้องบอกว่าเป็นประโยชน์มาก สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้บ้างในบางส่วน อาทิ การผ่อนปรนการชำระเงินกู้ในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเองด้วยว่า มาตรการต่างๆ จะเป็นประโยชน์มากน้อยเท่าใด เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายมีความจำเป็นและต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกันไป ต้องบอกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดไม่มีใครคาดคิดและเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า จึงไม่มีใครสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเน้นบริการตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รถโดยสาร ร้านอาหาร รวมถึงบริการที่คนจีนนิยมไปใช้บริการในช่วงที่ผ่านมา

มีหลายเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือมากกว่า โดยเฉพาะการยกเว้นการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน เป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการนำเงินในส่วนที่ต้องชำระเงินกู้ทั้งหมด มาบริหารจัดการกับธุรกิจก่อน และการระงับชำระภาษีรายได้ประจำปี ระงับการหักภาษีประกันสังคม รวมถึงการจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยราคาถูก ต้องเน้นย้ำในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและข้อผูกมัด ว่าต้องไม่สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการเพิ่มอีก เพื่อให้เป็นส่วนเข้ามาช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) รวมถึงรายใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการเงินทุนเข้าไปหมุนเวียนในธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และต้องเข้าไปกระตุ้นตลาด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นๆ ทดแทนตลาดจีนที่หายไป

Advertisement

การที่ภาครัฐจะออกมาตรการมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ผ่านการให้ผู้ประกอบกิจการโรงแรม ที่พัก หรือรีสอร์ตต่างๆ หากทำการปรับปรุงสถานที่จะสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ต้องดูว่าเป็นการลดหย่อนภาษีในส่วนใด หากเป็นภาษีเงินได้ประจำปีแล้วมีการยกเว้นไป 1.5 เท่า ก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก เพราะผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวไม่มีอะไรจะเสียแล้ว การให้พัฒนาหรือปรับปรุงโรงแรมใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้นจะต้องมีเงินทุนเข้ามาเกี่ยวด้วย เพื่อนำเงินทุนเหล่านั้นไปปรับปรุงโรงแรมใหม่ ผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวหายไปในตอนนี้ แทบจะทำให้ผู้ประกอบการไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้พนักงานแล้ว โดยเฉพาะโรงแรม และรถทัวร์ ต้องใช้พนักงานจำนวนมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องการแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำๆ อยู่ดี เพื่อให้มีสายป่านในการหมุนเวียนธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีสายป่านสั้นมากกว่าปกติ

หากให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยว คงส่งผลต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนต่อจากนี้ กว่าฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนอย่างแน่นอน อาจทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยต้องเจอกับสุญญากาศเล็กๆ แต่ส่งผลกระทบรุนแรงกับผู้ประกอบการ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งรัดดำเนินการเป็นอย่างแรกในตอนนี้คือ การฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อให้สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น จัดงานประชาสัมพันธ์ หรือรณรงค์หนักๆ ทำให้เกิดความรู้สึกในการอยากเที่ยวในประเทศไทย จูงใจให้คนอยากออกเดินทาง เพราะการเดินทางไม่ว่าจะในระยะไกลหรือระยะใกล้ ก็ล้วนต้องใช้เงินไม่มากก็น้อย จะทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในประเทศมากขึ้น ในส่วนของคนไทยเองจะต้องช่วยกันเดินทางมากขึ้น ปลุกความรู้สึกรักบ้านเกิด เที่ยวบ้านเกิดให้มากกว่านี้ แต่ภาครัฐก็ต้องหันมาพัฒนาภาคการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการคมนาคม โดยเฉพาะการพยายามทำให้การท่องเที่ยวในประเทศมีราคาถูกกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่าแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยมีราคาแพงมาก อาทิ หากเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี จะใช้ทั้งหมด 10,000 บาท แต่หากเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจะใช้ 20,000 บาท ไม่ว่าใครก็ต้องการเลือกเดินทางไปต่างประเทศอยู่แล้ว เที่ยวได้ในราคาที่ถูกกว่า

ทราบมาว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหนักมากๆ อยู่ในภาคการให้บริการรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่มทัวร์หรือหมู่คณะ ขณะนี้รถบัสจำนวนกว่า 1,200 คัน ต้องจอดนิ่ง เนื่องจากผู้ประกอบการทัวร์ในประเทศจีนได้ยกเลิกการใช้บริการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด โดยต้องการให้ภาครัฐเข้าไปเยียวยา อาทิ การนำรถบัสที่จอดนิ่งเหล่านั้นเข้ามาให้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะเชื่อว่ายังมีช่องทางอีกมาก หรือการให้ภาครัฐเป็นผู้ว่าจ้างรถบัสเหล่านั้นให้บริการกับพนักงานราชการที่ต้องเดินทางจากนอกเมืองเข้ามาในเมือง แต่ไม่ได้ต้องการให้ภาครัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด รู้ว่ารัฐก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น อาจต้องทำแบบสำรวจก่อนว่า มีพนักงานราชการในพื้นที่ใดบ้างและมีจำนวนเท่าใด ที่ต้องการใช้บริการรถบัสแบบผูกขาดรับในตอนเช้าและส่งในตอนเย็น หรือเลือกเฉพาะช่วงเวลาใดเท่านั้น และเก็บค่าบริการตามปกติ จะทำให้รัฐไม่เจ็บตัวฟรี และเอกชนก็มีการจ้างงานเข้ามาด้วย

Advertisement

สำหรับการปรับลดภาษีน้ำมันสรรพสามิตเครื่องบินจากเดิมอยู่ที่ระดับ 4.726 บาทต่อลิตร เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน หรือจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 คาดว่าจะทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินปรับลดลงด้วยนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก อาจช่วยดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างชาติให้อยากมาเที่ยวไทยมากขึ้นได้ เนื่องจากราคาตั๋วโดยสารมีราคาถูกลง เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ เริ่มมีความกังวลมากขึ้น จึงชะลอการเดินทางมาเที่ยวไทย และยกเลิกการจองที่พักไปเป็นจำนวนมาก สะท้อนได้จากปกติเครื่องบิน 1 ลำ จะมีอัตราการโดยสารเต็มกว่า 80% เหลือที่นั่งว่างเพียง 20% เท่านั้น แต่ขณะนี้ที่นั่งเต็มแค่ 20% เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่นก็เหลือเต็มไปหมด ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ส่งผลกระทบหนักมากกับภาคการท่องเที่ยว มองว่าตั๋วโดยสารในประเทศมีราคาถูกลงก็จะทำให้ประชาชนหันมาเดินทางในประเทศด้วยเครื่องบินมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางในด้านอื่นๆ ก็ช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ด้วย
กันทั้งนั้น

มาตรการที่ออกมาคงช่วยพยุงผู้ประกอบการได้ในเบื้องต้น แต่คงช่วยได้ไม่มากเท่าใดนัก เนื่องจากยาไม่แรงมากพอ หากภาครัฐสามารถออกยาแรงมากได้ ทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนขึ้นไป การระงับชำระภาษีเงินได้ และประกันสังคม รวมถึงหาแหล่งเงินต้นทุนดอกเบี้ยต่ำจริงๆ จะเป็นประโยชน์และช่วยเยียวยาผู้ประกอบการได้ เพราะหากรัฐสามารถหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำได้ แม้จะต่ำแล้วก็ต้องมาดูอีกว่า ผู้ประกอบการขนาดเล็กๆ เหล่านั้น จะสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ เพราะก็มีกระบวนการ และการพิจารณาอนุมัติเงินกู้อีก โดยเฉพาะในรายที่ยังไม่มีความสามารถในการจัดทำพอร์ตการเงินที่สวยงามมากพอ ในส่วนของการพักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนั้น ไม่ได้ต้องการให้พักการชำระไปในระยะยาว แต่ต้องการให้หารือเพื่อหาจุดตรงกลางในการตกลงกันว่า จะยกเว้นไปถึงเมื่อใด และเมื่อผ่านพ้นช่วยวิกฤตไปแล้ว เหตุการณ์สงบค่อยมาหารืออีกครั้ง เพื่อจัดเก็บกันใหม่ต่อไป

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต

มาตรการดังกล่าวข้างต้นนั้น ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะได้บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่คิดว่าสำหรับภูเก็ตนั้นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากที่มีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะยืดเยื้อไปอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรืออาจจะถึง 1 ปี ถึงแม้จะเชื่อมั่นว่าทางการจีนเองจะควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 3 เดือน แต่ก็จะต้องมีกระบวนการฟื้นฟูหลายส่วนภายในประเทศ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวชาวจีนจึงยังไม่เดินทาง และคาดว่าบางส่วนจะเริ่มกลับมาเดินทางในช่วงเดือน กรกฎาคม และ ตุลาคม ตรงกับวันชาติจีนอีกครั้ง

ทั้งนี้ การงดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนไม่น้อยกว่า 6 เดือน นั้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนหายไป 1.2 -1.5 ล้านคน สูญเสียรายได้นับหมื่นล้านบาท แม้มาตรการข้างต้นที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือจะเห็นผลอยู่บ้าง แต่อยากจะให้เพิ่มเติมส่วนอื่นๆ เนื่องจากผู้ได้รับผลกระทบนั้นส่งผลทั้งระบบ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ตั้งแต่สนามบิน แท็กซี่ รถบัส โรงแรม ที่พักร้านอาหาร และบริการนำเที่ยว ไกด์ ลูกจ้างและภาคส่วนอื่นๆ จึงอยากให้ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มเติมในส่วน Cash Flow ที่จำเป็นต้องนำไปใช้ในระบบเพื่อหมุนให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ เช่น เลื่อนขยายเวลา หรือลดอัตตราภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ภาษีโรงเรือน ฯลฯ การขยายเวลาการจ่ายประกันสังคมฯ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการได้มี Cash Flow นำกลับไปจ่ายให้พนักงานหรือหมุนเวียนในระบบ ประคับประคองหรือต่อลมหายใจให้สามารถผ่านวิกฤตไปได้ก่อน ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการที่เคยทำมาแล้วในช่วงที่เกิดเหตุสึนามิ โรคซาร์ส ไข้หวัดนก และเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่ม ผู้ประกอบการภูเก็ตล้วนเคยต่อสู้และผ่านมันมาได้

ยังเห็นว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนการโปรโมตการท่องเที่ยวให้กับภาคธุรกิจ เช่น การออกไปโรดโชว์ เทรดโชว์ต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อดึงกลุ่ม นทท.จากประเทศอื่นๆมาทดแทน ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีแผนการโปรโมตการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดแม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่หายไป แต่ก็สามารถหมุนกงล้อเศรษฐกิจภูเก็ตให้ขับเคลื่อนไปได้ เมื่อถึงเวลาที่สถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย นทท.ชาวจีนก็จะกลับมา รายได้จากการท่องเที่ยวของภูเก็ตก็จะเป็นรายได้กลับคืนสู่ภาครัฐต่อไป

วีระยุทธ สุขวัฑฒโก
ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ

น่าจะเป็นการต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า เรียกว่า ลองทุกทาง เพราะที่ผ่านมาลองเปิดกระเป๋ามาแล้ว 2-3 ครั้งก็ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไร ก็ต้องลองใหม่ไปเรื่อยๆ คือ ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายมีเงินหมุนเวียนในระบบกระตุ้นไปแล้วหลายรอบก็ยังไม่ดีขึ้น แต่รายจ่ายจากภาษีลดน้อยลง ก็คงจะต้องยอมเฉือนเนื้อตัวเอง เป็นการลองอีกวิธี หากจะถามว่าเห็นด้วย 100% ก็ต้องตอบว่า ไม่แน่ใจ เพราะขณะนี้ถือว่าทุกอย่างตันไปหมด

ถ้าในแง่กระตุ้นการท่องเที่ยวก็คงได้อยู่ และอาจเป็นไปได้มากกว่า คือให้ผู้ประกอบการพาพนักงานออกไปใช้จ่ายเงิน แต่ก็อยากถามกลับว่า แล้วจะให้เอาเงินที่ไหนไปเที่ยวเพื่อกลับมาใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษี 2 เท่า ช่วงนี้คงไม่มีใครอยากไปเที่ยว ส่วนเรื่องการให้โรงแรมและที่พักดำเนินการปรับปรุงสถานที่เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะลงทุนแล้วจะมีอะไรรับประกันว่าจะได้ แล้วจะเอาอะไรไปชี้วัดว่ามีการปรับปรุงใหม่ คงต้องบอกว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ผู้ประกอบการและภาคเอกชนไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้มากนัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image