บทนำ : ทางออกจากวิกฤต

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เเถลงข่าวยืนยันว่า คนไทยที่อยู่ในประเทศจีน จำนวน 138 คน ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยมี 3 รายที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย ทั้งนี้ 2 ราย ทางการจีนตรวจพบว่ามีไข้สูง ซึ่งมาตรฐานมีการกำหนดไว้ไม่เกิน 37.3 องศา เเต่ 2 คนนั้นตรวจวัดได้ 37.4 กับ 37.5 องศา ทางการจีนได้กักตัวไว้ เเละไม่ได้เดินทางมาด้วย ทั้ง 2 คนได้รับการดูเเลเป็นอย่างดีจากทางการจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตคอยดูเเลด้วย ส่วนอีก 1 คน ที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย ก็เนื่องจากวีซ่าขาด

สาเหตุที่ไทยต้องส่งเครื่องบินไปรับคนไทยที่ประเทศจีนเนื่องจากไวรัสโคโรนาระบาดที่ประเทศจีน ทำให้จีนต้องควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งแม้ว่าจะมีความเข้มงวดอย่างสูงแล้วก็ยังพบการระบาดของไวรัสไปทั่วโลก ดังนั้นการระบาดดังกล่าว จึงเป็นภารกิจของทุกประเทศที่ต้องช่วยเหลือกัน สำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี นักเทคนิคการแพทย์ รองหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และทีมงานเป็น
ผู้ค้นพบและยืนยันไปเมื่อต้นมกราคม

นอกจากนี้ เมื่อไวรัสแพร่ระบาด ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช อายุรแพทย์โรคปอด นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี และ รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี ยังค้นพบวิธีการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอย่างได้ผล คนไข้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ตัวยาจะไม่ใช่ของใหม่ แต่ด้วยเทคนิคการให้ยาที่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ ก็เพียงพอที่จะยืนยันความสามารถของหมอไทย

ท่ามกลางภาวะวิกฤตไวรัสระบาด พบว่าไทยมีบุคลากรผู้มีความสามารถ และเชื่อว่าแวดวงอาชีพอื่นๆ ก็มีคนไทยที่มีความสามารถอยู่อีกมาก ขณะที่ประเทศเผชิญหน้าวิกฤต ถ้าเปิดโอกาสให้คนไทยเหล่านั้นเข้ามาช่วยเหลือ บางทีไทยอาจจะผ่านพ้นวิกฤตเหล่านั้นไปได้ แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องใจกว้าง เปิดใจยอมรับ กล้ากระจายอำนาจตัดสินใจไปให้ และมีแรงจูงใจพอจะทำให้ผู้มีความสามารถเหล่านั้นเข้ามาช่วยให้ไทยพ้นจากวิกฤตในด้านต่างๆ

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image