| ผู้เขียน | ไพรัตน์ พงศ์พาณิชย์ |
|---|
มีงานวิจัยทางการแพทย์จากสิงคโปร์ชิ้นหนึ่งปรากฏในวารสารวิชาการ เจอร์นัล ออฟ อเมริกัน เมดิคัล แอสโซซิเอชัน (เจเอเอ็มเอ) ของสมาคมแพทย์อเมริกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่ผมว่าน่าสนใจ เพราะงานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า คนธรรมดาๆ อย่าง เราๆ ท่านๆ ก็สามารถต่อกรกับเชื้อไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 ได้ เพียงลงทุนลงแรงนิดหน่อยเท่านั้น
ทีมวิจัยจากศูนย์กิจการโรคติดต่อแห่งชาติ (เอ็นซีไอดี) ของสิงคโปร์ ทดสอบเก็บตัวอย่างจากภายในห้องของผู้ป่วยโควิด-19 รวม 3 รายซึ่งรักษาตัวอยู่ที่นั่นมาตรวจหาเชื้อ ช่วงระยะเวลาการเก็บตัวอย่างนั้นนาน 2 สัปดาห์ โดยสุ่มเก็บมา 5 วัน ในสองสัปดาห์ตั้งแต่ปลายมกราคมจนถึงต้นกุมภาพันธ์ที่ว่านี้ครับ
ผู้ป่วยรายแรกมีอาการน้อยที่สุด รายที่สองหนักขึ้นหน่อยมีอาการไอ จาม ส่วนรายที่สามหนักสุด เพราะมีอาการหายใจหอบและมีเสมหะอยู่ด้วย
ทีมวิจัยกำหนดเวลาเข้าไปเก็บตัวอย่างจากห้องผู้ป่วยรายแรก ก่อนหน้าที่จะมีการทำความสะอาดประจำวัน ส่วนอีก 2 ราย เก็บหลังจากการทำความสะอาดประจำวันของสถานพยาบาลที่นั่น
ผลลัพธ์ก็คือ ห้องผู้ป่วยรายแรก พบเชื้ออยู่บนผิวสัมผัสถึง 13 จุด จาก 15 จุดที่ตรวจสอบ ทั้งบนเก้าอี้, ราวกั้นเตียง, กระจกหน้าต่างห้อง, พื้น และสวิตช์ไฟ ภายในห้องน้ำ พบเชื้อใน 3 จุด จาก 5 จุดที่ตรวจสอบ มีทั้งบริเวณอ่างล้างหน้า, ลูกบิดประตู และโถชักโครก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีไวรัสอยู่ในอุจจาระของผู้ป่วยจริง
ทีมวิจัยไม่พบตัวอย่างเชื้อในอากาศในห้องผู้ป่วย แต่เมื่อเก็บตัวอย่างจากผิวช่องท่อระบายอากาศกลับพบเชื้อ
ส่วนตัวอย่างที่เก็บจากอีก 2 ห้องผู้ป่วยซึ่งอาการหนักมากกว่า แต่เป็นการเก็บตัวอย่าง “หลัง” การทำความสะอาดประจำวัน ไม่พบว่ามีเชื้อหลงเหลืออยู่ครับ
ทีมวิจัยสรุปผลเอาไว้ 2 ข้อครับ หนึ่งคือ โควิด-19 นอกจากจะติดต่อได้ด้วยการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วยโดยตรงแล้ว การติดต่อจากการสัมผัสผิวพื้นใดๆ ในสภาพแวดล้อมใด ที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งดังกล่าวก็เป็นปัจจัยสำคัญ
สองคือ การทำความสะอาดโดยน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่สถานพยาบาลใช้อยู่ทั่วไปเพื่อทำความสะอาดผิวพื้นต่างๆ 2 ครั้งต่อวัน ถูพื้น 1 ครั้งต่อวัน สามารถกำจัดเชื้อโควิด-19 ได้ครับ
สำหรับพวกเราคนทั่วไป งานวิจัยนี้มีประโยชน์ตรงที่นอกจากจะบอกว่าใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้แล้ว ยังบอกเราด้วยว่าควรเน้นทำความสะอาดผิวพื้นตรงไหนมากเป็นพิเศษ เพราะยกเว้นจากราวกั้นเตียงผู้ป่วยแล้ว ที่เหลือทุกบ้านก็มีเหมือนกันหมด
ส่วนความถี่ในการทำความสะอาดบ้าน ก็น่าจะลดลงได้บ้าง เพราะสถานพยาบาลนั้นมีเชื้อมากกว่าที่บ้านของเราเยอะมากครับ
ที่สำคัญก็คือการดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนตัวอย่างเคร่งครัดหากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดขึ้นมา
ใครที่จำเป็นต้องใช้โถชักโครกนอกสถานที่บ่อยๆ ก็ควรพกพากระดาษอาบน้ำยาฆ่าเชื้อซึ่งมีขายทั่วไปเช็ดทำความสะอาดก่อนนั่งลง
เสร็จธุระจากห้องน้ำแล้วก็อย่าลืมล้างมือ ฟอกสบู่นาน 20 วินาที เป็นการขจัดเชื้อที่อาจติดมากับมือ แล้วเผลอไผลเอาไปเช็ดหน้า เช็ดปากครับ
ทำอย่างนี้ได้ ก็ลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ลงได้อักโขเลยทีเดียว
อ้อ มีคำเตือนสำหรับคุณผู้ชายเป็นพิเศษครับ เพราะในความเป็นจริง ผู้ชายรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลแย่กว่าผู้หญิงมาก เคยมีงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา บอกว่ามีแค่ 35 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ล้างมือหลังเสร็จธุระในห้องน้ำ ต่างกับผู้หญิงที่สัดส่วนสูงถึง 65 เปอร์เซ็นต์
ที่สำคัญคืออย่าไปเถียงหรือแสดงทีท่าว่ารำคาญคำแนะนำของพวกหล่อนเด็ดขาดครับ
นอกจากเสี่ยงติดโรคแล้วยังเสี่ยงเจ็บตัวอีกต่างหาก อิอิ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
